จากเด็กตัวน้อย เดินตามฝันสู่การเป็นอาจารย์ - ผักบุ้ง ชวิน

จากเด็กตัวน้อย เดินตามฝันสู่การเป็นอาจารย์

ผักบุ้ง นายชวิน ตั๊นเช็ง ปัจจุบัน อายุ 31 ปี ทำงานเป็นอาจารย์ ระดับชั้น ปวช. สาขาไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด จังหวัดระยอง หนึ่งในความภูมิใจของหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กที่ได้เข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู

ความสำเร็จลูกโสสะ - ผักบุ้ง ในวัยเด็ก

“ผมเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านเด็กโสสะตั้งแต่อายุ 1 ขวบ โดยมีคุณแม่พรทิพย์ เสนานิกรม เป็นผู้ดูแลบ้าน 10 ในบ้านมีพี่น้องประมาณ 10 คน ผมป็นน้องเล็กสุดของบ้าน เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนพิบูลย์ประชาบาล จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนวัดศรีจันทร์ประดิษฐ์"

"หลังจบชั้นมัธยมต้น ด้วยความสนใจเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า จึงตัดสินใจเข้าเรียนต่อวิทยาลัยการอาชีพ พระสมุทรเจดีย์ (เทคนิคไฟฟ้า) สาขาไฟฟ้า จนจบการศึกษาชั้น ปวช.และศึกษาต่อระดับปริญญาตรี จนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตเทเวศร์ สาขาไฟฟ้าครับ”

มาเป็นข้าราชการครูได้อย่างไร?

ผักบุ้งกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ผมเห็นประกาศรับสมัครครูของวิทยาลัยเทคนิคมาบตาพุด และตัดสินใจสมัครอย่างไม่ลังเล เพราะมีความตั้งใจอยากนำความรู้ที่ตนเองมี นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”

จากจุดเริ่มต้นในวันนั้น การเดินทางของความมุ่งมั่นของครูผักบุ้งจึงดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนปัจจุบัน ในหน้าที่อาจารย์ของนักเรียนอาชีวะ ระดับปวช.สาขาไฟฟ้า

“วันแรกที่สอน ตื่นเต้นมากครับ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยิ่งสอนยิ่งสนุก เพราะได้นำเทคนิคการสอนต่าง ๆ มาปรับใช้ เพื่อให้นักเรียนมีส่วนร่วมมากขึ้น สำหรับความภาคภูมิใจในการทำงานของผม คือ การได้เห็นลูกศิษย์มีคุณภาพ เติบโตเป็นคนดีของสังคม และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข”

ความสำเร็จลูกโสสะ - ผักบุ้ง ในฐานะอาจารย์

"มูลนิธิเด็กโสสะฯ ได้สนับสนุนทุนการศึกษา ค่าใช้จ่ายระหว่างเรียน ค่าเรียนพิเศษ ค่าอาหาร ค่าหอพักต่างๆ ให้ทั้งหมด สำหรับผม สิ่งที่ได้รับการสนับสนุนนั้น เป็นเงินที่มีมูลค่ามาก ผมซาบซึ้งใจจริงๆ ครับ  ถึงแม้ผมจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ผมไม่เคยรู้สึกขาดอะไรเลย เพราะผมมีแม่ มีพี่น้องที่ดูแลกัน ได้รับความรัก ความอบอุ่น เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านการเรียน และปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต ผมรู้สึกว่า เราเป็นเด็กที่โชคดีมากที่ได้รับโอกาสตรงนี้ ได้เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเด็กโสสะ ได้มีครอบครัว ได้รับการศึกษา และในช่วงปิดเทอมก็ทางมูลนิธิฯ ก็มีจัดให้เด็กๆ ได้ไปทัศนศึกษา ซึ่งสร้างความทรงจำในวัยเด็กที่ดีให้กับผม และครอบครัวแห่งนี้ ดูแลผมตั้งแต่เด็ก ตอนเป็นนักเรียน เข้าสู่วัยรุ่น จนจบการศึกษา”

ผักบุ้งได้กลับไปเยี่ยมน้องๆ บ้าง ถ้ามีโอกาส และคอยโทร. หาคุณแม่อยู่เสมอๆ นอกจากนี้ผักบุ้งยังได้ให้คำแนะนำกับน้องๆ ในตอนที่กลับบ้านมาหาแม่และน้อง โดยเฉพาะแนวคิดด้านการศึกษา เพื่อให้น้องค้นหาตัวเอง ตั้งเป้าหมายของตน และทำตามความฝัน ถ้าเจออุปสรรค ก็อย่าท้อ ให้ฝ่าฟันไปให้ได้ ล้มได้ก็ให้ลุกให้ไว แม้ผิดพลาด แต่ยังมีความมุ่งมั้นตั้งใจ ก็ยังมีเริ่มใหม่ได้ ถ้าใจสู้

ความสำเร็จลูกโสสะ - ผักบุ้ง ถ่ายภาพในวันจบการศึกษา กับคุณแม่และพี่น้อง

"ขอขอบพระคุณคุณแม่โสสะทุกท่าน ที่เสียสละเวลาและครอบครัวตนเองมาดูแลเด็กๆ ทุกคนที่ขาดพ่อแม่ และอบรมสั่งสอนพวกผมให้ได้มีอนาคตที่สดใส และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เหน็ดเหนื่อย และทำทุกอย่างเพื่อเด็กๆ ในมูลนิธิฯ ตัวอย่างเช่นผม เด็กอีกคนที่ได้มีครอบครัวอบอุ่น และเติบโตจนพึ่งพาตนเองได้”

“ทุกครั้งที่เจอบูธของมูลนิธิฯ ออกไปตั้งรับบริจาค ผมเองก็ได้บริจาค 200 หรือ 300 บาท ตามความเหมาะสมในตอนนั้น เพราะครั้งหนึ่งผมได้โอกาสจากเงินสนับสนุนโดยผู้บริจาคทุกท่าน ถึงวันนี้ ผมมีโอกาสแล้ว ผมเองก็อยากเป็นส่วนนึงส่งต่อความช่วยเหลือไปสู่น้องๆ บ้างครับ”

น้องผักบุ้งยังฝากขอบคุณมาถึงผู้บริจาคทุกท่านด้วยว่า “ผมขอขอบคุณท่านผู้บริจาคทุกท่าน ที่สนับสนุน ให้โอกาสผมและน้องๆ ได้รับการศึกษา ได้พัฒนาความรู้ ทักษะความสามารถ จนสามารถมีอาชีพ เป็นบุคลากรของสังคม ดูแลตนเองได้ ขอขอบคุณจากใจจริงที่สนับสนุนผมและน้องๆ ทุกคนในมูลนิธิฯ ครับ”

“ปัจจุบันนี้ นับเป็นก้าวแรกของการประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งผมยังมีความคาดหวังในชีวิตยาวไกล ที่จะถ่ายทอดวิชาความรู้ให้กับเด็กนักเรียนนำไปใช้ และ พัฒนาตัวเองและประเทศชาติได้ในอนาคต”