คุณสาคร ลูกโสสะบางปู

คุณสาคร ลูกโสสะบางปู

สาคร เรือนทอง อีกหนึ่งความสำเร็จของลูกโสสะบางปู สมุทรปราการ ที่ออกไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างเต็มภาคภูมิ เขาจบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเทคโนโลยีอุตสาหกรรม คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ ปัจจุบันทำงานในตำแหน่งเอ็นจิเนียร์ ที่บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ ถุงลม และกำลังจะเป็นว่าที่คุณพ่อในเร็วๆ นี้

 

 

 


วัยเด็กเมื่อวันวาน
ผมเป็นเด็กกำพร้าครับ จึงทำให้ได้เข้าไปอยู่กับครอบครัวโสสะบางปู สมุทรปราการ ตอนอายุ 4 ขวบ อยู่ตั้งแต่เด็กจำความช่วงแรกไม่ได้หรอกครับ มาจำความได้ก็ประมาณหกถึงเจ็ดขวบแล้ว ก็รู้ว่าบ้านคือครอบครัวโสสะ มีพี่น้อง มีเพื่อนในหมู่บ้านเยอะแยะมากมาย ทำให้ไม่เคยเหงาเลยสักวัน


ประสบอุบัติเหตุ
ผมเคยประสบอุบัติเหตุรถชน ช่วงนั้นต้องบอกว่า เจ็บปางตาย อยู่ในห้องไอซียูหลายวันกว่าจะได้ออกมา ในระหว่างที่ผมรักษาตัวอยู่นั้นถามว่าได้ใครคอยดูแล ก็คงไม่พ้นคุณแม่กรองทิพย์ (คุณแม่โสสะ) และพี่น้องในบ้านที่หมุนเวียนเปลี่ยนกันมาเฝ้า ถึงแม้ว่าผมเรียนจบ ออกมาทำงานและได้ออกจากการเลี้ยงดูของหมู่บ้านเด็กโสสะมาแล้วก็ตาม แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ครอบครัวโสสะก็ไม่เคยทิ้งให้ผมเดียวดาย
ช่วงที่ผมรู้สึกตัวผมเห็นแม่ร้องไห้ จนผมต้องบอกแม่ว่า ผมไม่เป็นไร เมื่อออกจากโรงพยาบาลทุกคนเป็นห่วงจึงได้ขออนุญาตทาง หมู่บ้านเด็กโสสะว่า ให้ผมได้พักรักษาตัวที่ข้างในหมู่บ้านฯ ก่อนสักระยะ ในทุกๆ วันผมจะจดบันทึกไว้ว่า ใครทำอะไรให้ผมบ้าง ในใจลึกๆ ก็กลัวทุกคนจะลำบากเพราะเรา แต่เมื่อเห็นทุกคนดูแลเราด้วยความเต็มใจ ก็รู้สึกตื้นตัน รู้สึกรักทุกคนในครอบครัวของผมมากขึ้นไปอีก
 
พลังแห่งรักที่ยิ่งใหญ่
ระยะเวลาที่เราอยู่ร่วมกัน ผมว่า มันได้ก่อสายสัมพันธ์รักอันยิ่งใหญ่ คนที่ต่างพ่อ ต่างแม่ ต่างสายเลือด แต่เมื่อมาอยู่ในครอบครัวโสสะ เรากลับกลายเป็นพี่น้องกัน เรามีแม่ที่ให้การดูแล ถึงแม้ไม่ใช่แม่ของเราจริงๆ แต่ทำหน้าที่ยิ่งกว่าแม่ผู้ให้กำเนิดเรามาซะอีก
 
สร้างชีวิตใหม่
ปัจจุบัน ผมมีหน้าที่การงานที่มั่นคง และกำลังจะเป็นคุณพ่อซึ่งภรรยาของผมตั้งครรภ์ใกล้คลอดแล้ว สิ่งเหล่านี้ถามว่าผมประสบความสำเร็จในชีวิตหรือยัง ผมก็ไม่กล้าบอกว่ามันประสบความสำเร็จจริงหรือเปล่า เพราะว่าเส้นทางของชีวิตนี้มันยังอีกยาวไกล แต่ถ้าถามว่าผมพอใจไหม ผมพอใจมากกับชีวิตที่เป็นอยู่ ถึงแม้เราไม่ได้ร่ำรวย หรือมีชื่อเสียงโด่งดังอะไร
บทบาทของความเป็นพ่อที่ผมกำลังจะได้เป็น เราต้องมีความรับผิดชอบให้มากขึ้น เพื่ออนาคตของครอบครัวและของลูก เราเรียนรู้ชีวิตจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ดังนั้นเราจึงรู้ว่า ความรักจากครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญ ดั่งที่ผมได้รับความรัก ความอบอุ่นจากครอบครัวโสสะ มันได้หล่อหลอมให้ผมได้เป็นคนเต็มคน


ข้อคิด
หลายคนเคยถามผมว่า ผมน้อยใจกับโชคชะตาไหมที่เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า ผมบอกว่าก็ เคย แล้วจะทำอะไรได้เมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว และก็มีคนเคยถามว่า ผมว่าอายไหมที่เป็นลูกโสสะ สำหรับคำถามนี้ผมตอบได้อย่างเต็มปากเลยว่า ไม่เคยอาย ผมภูมิใจที่ได้เป็นลูกโสสะ ที่นี่ได้ให้โอกาส ได้เปลี่ยนชีวิตลูกกำพร้าอย่างผม ทำให้ผมไม่รู้สึกว่า เป็นเด็กกำพร้า
 
ความในใจของลูกโสสะ
ที่ผ่านมา ผมรู้ว่า ชีวิตของผมไม่ได้มีแค่คุณแม่โสสะ หรือครอบครัวโสสะเท่านั้นที่คอยมอบความรัก ความหวังดีให้ จริงๆ แล้วต้องบอกว่า ที่ผมได้มีครอบครัวโสสะ มีชีวิตอย่างเช่นทุกวันนี้ ก็เพราะ “ท่านผู้บริจาค” ที่ได้สละทุนทรัพย์ จากที่ท่านต้องทำงานแลกด้วยหยาดเหงื่อแรงกายแรงใจเพื่อให้ได้เงินมา และแบ่งปันเงินนั้นมายังผมและลูกๆ โสสะทุกคน โดยที่ท่านเองก็ไม่ได้สิ่งใดตอบแทนกลับไป ผมอยากขอบคุณทุกๆ ท่านจากหัวใจอันแท้จริง และผมจะใช้ชีวิตนี้ให้อย่างมีคุณค่าสุด ให้สมกับที่ท่านได้มอบให้มาครับ


สาครกับพี่น้องครอบครัวโสสะในวันแต่งงาน