กันยายน 17 2563
ความภาคภูมิใจแรกของหมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ต
บางครั้ง การเดินทางสู่ “เป้าหมายในชีวิต” หลายเรื่องต้องใช้ความอดทน อีกทั้งต้องผ่านกาลเวลาที่อาจจะยาวนาน หรือแม้กระทั่ง มีเหตุการณ์หลากหลาย ที่ดำเนินไปในระหว่างทาง ทั้งตั้งใจก็ดี ไม่อยู่ในแผนการก็มาก รวมถึงอุปสรรคปัญหา ที่เข้ามาให้ฝ่าฟันอีกนับไม่ถ้วน
สิ่งเหล่านี้ หากเมื่อใครสักคนผ่านพ้นไปได้ ชีวิตก็จะหล่อหลอมให้ใครคนนั้นเข้มแข็งขึ้น รับมือกับชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์เป็นทุนพลังใจ ที่ส่งต่อถึงกันได้ ดังเรื่องราวของ “น้องหมวย” พลอยไพริล ภูมิสุทธาผล
![พลอยไพริล-โสสะภูเก็ต-05]()
“หนูเรียนจบจากมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ สาขาอนามัยสิ่งแวดล้อมค่ะ ปัจจุบันนี้ ทำงานอยู่กับบริษัทแห่งหนึ่ง ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการที่หน่วยงานจะทำแต่ละโครงการว่ามีผลกระทบต่อชุมชนอย่างไรบ้าง ทำมาประมาณปีกว่าแล้วค่ะ”
ในวันที่ต้องออกมาใช้ชีวิต ยืนบนลำแข้งของตัวเอง น้องหมวยมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมในการที่จะอยู่ร่วมกับสังคมนี้
![พลอยไพริล-โสสะภูเก็ต-07]()
“จริงๆ แล้วถึงแม้เราจะเป็นลูกโสสะ เป็นเด็กในมูลนิธิฯ แต่เราก็ไม่เคยได้ถูกปิดกั้นหรือจำกัดจากการใช้ชีวิตเลย เพราะตั้งแต่เล็กๆ เราได้ออกมาเรียนหนังสือข้างนอกหมู่บ้าน ได้พบปะกับผู้คน หรือแม้กระทั่งมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ก็ได้ออกมาใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกหมู่บ้าน ได้เรียนรู้เหมือนเด็กทั่วๆ ไปค่ะ”
“โดยเด็กมูลนิธิฯ จะมีเงื่อนไขหรือข้อตกลงบางข้อที่เราทำร่วมกัน เพราะความที่พวกเราได้รับการสนับสนุนการเลี้ยงดูจากผู้คนในสังคม จึงมีข้อปฏิบัติเป็นแนวทาง เพื่อให้ทุกคนดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสม เช่น เวลาเราซื้อของหรืออุปกรณ์การเรียน เราต้องเก็บใบเสร็จไว้เพื่อที่จะได้เอามาให้สำนักงานหมู่บ้านเด็กอีกครั้ง หนูมองว่า เรื่องนี้คือความถูกต้องและเหมาะสมที่เราทำได้ค่ะ”
“หนูไม่เคยอายที่จะบอกใครๆ ว่าหนูเป็นเด็กมูลนิธิฯ คนข้างนอกเรียกเราว่า เป็นเด็กมูลนิธิฯ แต่คนข้างในอย่างพวกหนู เรียกว่า “บ้าน” ที่นี่คือทุกอย่างสำหรับเรา ที่นี่เราได้มี “แม่” แม่ผู้ซึ่งต่อให้เราเดินออกมาจากที่นั่นแล้ว แต่แม่ก็ยังเป็นแม่ของเราอยู่ พี่น้องในบ้าน คุณน้าคุณอาทุกคนในหมู่บ้านก็เช่นกัน ทุกคนคือคนในครอบครัวที่หนูมี”
“และคนที่สำคัญพอๆ กับครอบครัวโสสะของหนูก็คือผู้บริจาคทุกคนที่ให้การสนับสนุนทางด้านทุนทรัพย์กับลูกโสสะ ท่านไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าตาพวกหนูเลย แต่ก็ยังเมตตาต่อพวกเราทุกคน หนูได้แต่หวังว่า สิ่งนี้จะทำให้ท่านมีความสุข มีความอิ่มเอมใจ อีกทั้งยังคงจะช่วยเหลือลูกโสสะต่อไป และหนูเองก็ขอเป็นอีกกำลังในการส่งต่อความสุขนี้ให้กับคนอื่นเช่นกันนะคะ ขอบคุณค่ะ”
![พลอยไพริล-โสสะภูเก็ต-01]()
แม้กาลเวลา และสถานการณ์ในชีวิต อาจทั้งตัดและเติม จัดสรรองค์ประกอบหลายอย่างในชีวิตไว้ให้คนหนึ่ง อย่างไม่อาจมีใครคาดคะเนได้ แต่ในทุกทางที่ชีวิตนำพามานั้น หากเราได้ใช้ทุกวินาที ใช้ทรัพยากรและโอกาสที่มีอย่างคุ้มค่าประสบการณ์ และคุณประโยชน์จากความพยายามนั้น ถ้าต่อยอดให้กับมนุษย์ด้วยกันได้ หรือสร้างสรรค์สังคมไม่ว่าจะส่วนเล็กน้อยหรือยิ่งใหญ่ เพียงไหน ก็คุ้มค่ามากพอที่จะต้องลงมือทำ