คุณสมใจ ลูกโสสะหาดใหญ่ สงขลา

คุณสมใจ ลูกโสสะหาดใหญ่ สงขลา

ชายคนหนึ่ง ในมือขวากำลังถือมืดและหั่นผักลงไปบนเขียงด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ เขากำลังทำเมนูอาหารตามที่ลูกค้าสั่งเข้ามา สมใจ  รอดบัวทอง พ่อครัวคนเก่งของครัวต้นน้ำ อีกหนึ่งความสำเร็จของลูกโสสะหาดใหญ่ สงขลา

 

 

ก้าวสู่ครอบครัวโสสะ
ผมเข้ามาอยู่ในครอบครัวโสสะตอนที่อายุ 11 ปี มาพร้อมกับพี่น้องอีกสี่คน ที่ต้องเข้ามาอยู่เพราะว่าพ่อเสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่นครศรีธรรมราช ครอบครัวเรายากจนมาก พอเข้ามาอยู่ในบ้านโสสะผมเป็นพี่คนโตในบ้าน การอยู่ในบ้านโสสะ ผมถือว่าเป็นเรื่องโชคดีมากของชีวิต ไม่นึกเสียใจกับโชคชะตาชีวิต ผมรักครอบครัวนี้มากครับ รักมากจริงๆ รักคุณแม่โสสะที่ให้ความรัก ถึงแม้เราจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ แม่จะคอยแนะนำในสิ่งที่ถูกที่ควรให้กับผม รักพี่น้องทุกคน ถึงแม้ว่าบางคนเราไม่ได้คลานตามกันมา เราจะคอยช่วยเหลือและพบเจอกันบ่อยๆ

ชีวิตปัจจุบัน
ผมเรียนจบ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาวิชาไฟฟ้า จากวิทยาลัยเทคโนโลยีสงขลา และตอนนี้ผมมีครอบครัวแล้วครับ ตอนนี้ เป็นคุณพ่อของลูกชายอายุ 11 ปี ทำอาชีพเป็นพ่อครัวอยู่ร้านอาหารบ้านต้นน้ำ ผมมีความสุขกับอาชีพที่ทำอยู่ในทุกวันนี้ และผมยังมีความฝันว่า ในอนาคต หากเป็นไปได้อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเองครับ

หากสามารถย้อนอดีตกลับไปได้
คงจะเป็นเรื่องการเรียนครับ จะตั้งใจเรียนให้จบสูงๆ กว่านี้ มีช่วงหนึ่งของชีวิตนั่นก็เป็นช่วงวัยรุ่นแหละครับที่มีดื้อมีเกเรบ้าง แต่ก็ด้วยความรัก ความเอาใจใส่ของแม่ และคุณน้า คุณอาในหมู่บ้านที่พยายามเคี่ยวเข็ญให้ผมได้เรียน ให้ผมได้เป็นคนเต็มคน อยากจะบอกน้องๆ โสสะ หรือแม้แต่น้องๆ ทุกคนที่กำลังเรียนอยู่ว่า เมื่อเรามีโอกาสแล้วก็ต้องไขว่คว้ามันไว้ ทำมันให้สำเร็จ วันหนึ่งข้างหน้าเราต้องออกมาใช้ชีวิตด้วยตัวของเราเองแน่นอน แต่เราต้องออกมาอย่างเข้มแข็ง และเป็นทรพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของสังคม

ความในใจของลูกโสสะ
ขอบคุณทุกคนครับที่ให้โอกาสผม และผมขอโอกาสนี้ไปถึงน้องๆ ที่ยังคงอยู่ในหมู่บ้านเด็กโสสะทุกคนด้วยนะครับ อย่าเคลือบแคลงหรือสงสัยเลยครับเวลาที่ท่านได้บริจาคมา เงินที่ท่านให้มานั้นได้มาถึงลูกโสสะจริงๆ หรือท่านจะเข้ามาเยี่ยมเยียนครอบครัวโสสะของผมดูก็ได้นะครับว่ามันอบอุ่นจริงๆ และสิ่งที่ท่านให้มาจะกลับกลายเป็นความสุขใจ

โอกาสชีวิตของคนเรามีไม่เท่ากัน เมื่อเราได้รับโอกาสก็ขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วว่าจะไขว่คว้ามันไว้ หรือขว้างปามันลง เพราะ “คนอื่นไม่ให้โอกาสเรา ยังไม่น่าเศร้าเท่ากับเราไม่ให้โอกาสตัวเอง”