กันยายน 9 2568
พ่อแม่ยุคใหม่สร้างได้: มารยาทพื้นฐานเพื่อลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพ
มารยาทคืออะไร ทำไมต้องสอนลูก?
หลายครั้งที่เราพูดถึง "มารยาท" อาจนึกถึงแค่การไหว้สวย พูดจาเพราะๆ หรือการวางตัวให้เหมาะสม แต่จริง ๆ แล้วมารยาทมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้นมากค่ะ มารยาทคือ "ภาษาสากลที่ทุกคนเข้าใจ" เป็นชุดของพฤติกรรมที่เราแสดงออกเพื่อแสดงความเคารพ ความเข้าใจ และการให้เกียรติทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในสังคม เปรียบเสมือนกาวใจที่ช่วยเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากัน สร้างความราบรื่นในการอยู่ร่วมกัน
การปลูกฝังมารยาทให้ลูกตั้งแต่เล็กจึงไม่ใช่แค่สอนให้เขาทำตามกฎเกณฑ์เท่านั้น แต่เป็นการสร้าง "ทักษะชีวิต" ที่จะติดตัวไปตลอด ทำให้พวกเขามีความมั่นใจ ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และผู้คนหลากหลายได้อย่างชาญฉลาด และเป็นที่รักของคนรอบข้าง เพราะสังคมไม่ได้สอนแค่บทเรียนในตำรา แต่ยังสอนบทเรียนของการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเห็นอกเห็นใจกัน หากเราไม่เริ่มต้นปลูกฝังจากที่บ้าน โลกภายนอกนี่แหละคือโรงเรียนสอนพวกเขา ซึ่งบางครั้งการเรียนรู้จากสังคมก็อาจมาพร้อมกับบทเรียนที่เจ็บปวด หรืออาจทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
เริ่มต้นจากพ่อแม่ ตัวอย่างที่ดีในการปลูกฝังมารยาท
การสอนที่ดีย่อมเริ่มจากตัวอย่างที่ดีเสมอ คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครอง จึงควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้เห็น ซึมซับ และจดจำ เช่น หากเราอยากให้ลูกพูดจาสุภาพ ก็ควรเริ่มจากการพูดสุภาพกับลูกและผู้อื่นให้ลูกเห็น ซึ่งการปลูกฝังมารยาทให้กับลูกนั้นอาจต้องใช้ความเข้าใจและการอดทนรอค่ะ เพื่อค่อยๆ ปรับพฤติกรรมให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ ไม่ควรลงโทษหรือดุด่ารุนแรง เพราะจะทำให้ลูกเกิดการต่อต้านได้
![มูลนิธิเด็กโสสะ - ลูกเราไม่ได้น่ารัก สำหรับทุกคน - 10 มารยาทพื้นฐานที่ควรปลูกฝังให้ลูกรัก infograpgic]()
10 มารยาทพื้นฐาน "หัวใจ" ที่พ่อแม่ต้องปลูกฝังให้ลูกรัก
1. 3 คำวิเศษ "ขอบคุณ" "ขอโทษ" "ขออนุญาต" รู้จักใช้ให้เป็นนิสัย
สามคำนี้คือประตูบานแรกสู่ความสัมพันธ์ที่ดี ขอบคุณเมื่อได้รับ ขอโทษเมื่อทำผิด และขออนุญาตทุกครั้งเพื่อแสดงความเคารพสิทธิ์ของผู้อื่น การสอนให้ลูกพูดสามคำนี้ได้ติดปาก จะทำให้พวกเขากลายเป็นที่รักและได้รับความเอ็นดูจากคนรอบข้าง
2. อ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่
การแสดงความเคารพเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการไหว้แบบไทย หรือการทักทายด้วยรอยยิ้มและการมองตา โดยเฉพาะในสังคมไทย การไหว้ไม่ว่าจะเพื่อทักทาย ขอบคุณ หรือขอโทษ เป็นมารยาทพื้นฐานที่ควรกระทำ การสอนให้ลูกแสดงออกถึงความนอบน้อมและเป็นมิตร ซึ่งจะช่วยสร้างความประทับใจแรกที่ดี
3. เป็นผู้พูดที่สุภาพและเป็นผู้ฟังที่ดี
"การพูดและฟัง" เป็นทักษะการสื่อสารที่สำคัญอย่างยิ่งในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ผู้ปกครองควรสอนให้ลูกพูดจากับผู้อื่นอย่างสุภาพ มีหางเสียง ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีอายุมากกว่าหรือน้อยกว่าก็ตาม และตั้งใจฟังผู้อื่น รู้จักอดทนรอแล้วค่อยแสดงความคิดเห็นของตัวเองเมื่ออีกฝ่ายพูดจบ ซึ่งมารยาทการฟังที่ดี จะช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น ลดความขัดแย้ง และส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมไปถึงช่วยส่งเสริมทักษะในการทำงานให้มีประสิทธิภาพอีกด้วย
4. เคารพและให้เกียรติผู้อื่น ไม่ล้อเลียนหรือบูลลี่
ปลูกฝังความเข้าใจในความแตกต่างหลากหลายของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตา ความคิดเห็น เชื้อชาติ หรือความเชื่อ สอนให้ลูกรู้จักยอมรับและเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก หรือใช้คำพูดและการกระทำที่สร้างความเจ็บปวด
5. รับผิดชอบตนเอง
เริ่มต้นจากการรับผิดชอบของใช้ส่วนตัวของตนเอง เช่น การจัดเก็บของเล่น หนังสือ เสื้อผ้า หรือของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นการปลูกฝังวินัยและความรับผิดชอบตั้งแต่เล็ก ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารจัดการชีวิตในอนาคต ไม่สร้างความเดือดร้อนรำคาญเมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น
6. แบ่งปัน มีน้ำใจต่อกัน
สอนให้ลูกเรียนรู้ที่จะแบ่งปันสิ่งของ ขนม หรือของเล่นกับผู้อื่น ซึ่งเป็นการปลูกฝังความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการอยู่ร่วมกัน รวมถึงสอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือผู้อื่นตามความเหมาะสม เช่น ช่วยเปิดประตูให้ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ ผู้พิการ หรือผู้ที่กำลังถือของเยอะๆ โดยการมีน้ำใจเป็นสิ่งเล็กๆ ที่จะช่วยสร้างความประทับใจได้มาก
7. มีมารยาทบนโต๊ะอาหาร
สอนให้ลูกรู้จักนั่งตัวตรง ไม่เคี้ยวเปิดปากเสียงดัง ไม่พูดคุยขณะเคี้ยวอาหาร และใช้ช้อนส้อมอย่างถูกต้อง รวมถึงการรักษาความสะอาดขณะรับประทานอาหาร ซึ่งหากเรามีบุคลิกภาพที่ดีก็จะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือ และความรู้สึกที่ดีของผู้อื่นอีกด้วย
8. ไม่หยิบฉวยของผู้อื่นโดยพลการ
แม้จะสนิทสนมหรือเป็นญาติพี่น้องกัน แต่ก็ควรเคารพทรัพย์สินของผู้อื่น และไม่หยิบจับหรือนำของผู้อื่นไปโดยไม่ได้รับอนุญาต
9. ไม่ส่งเสียงดังในที่สาธารณะ
ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล หรือขนส่งสาธารณะ สอนให้ลูกรู้จักควบคุมเสียง ไม่วิ่งเล่น หรือส่งเสียงดังรบกวนผู้อื่น เป็นการแสดงความเกรงใจและเคารพสิทธิ์ในการใช้พื้นที่ร่วมกันของผู้อื่น
10. มีจิตสำนึกที่ดี เคารพกฎและกติกาของสังคม
สอนให้ลูกปฏิบัติตามกฎเพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของส่วนรวม ไม่ว่าจะเป็นกฎจราจร กฎของโรงเรียน หรือกฎของสถานที่สาธารณะ รวมถึงการมีจิตสำนึกที่ดี เช่น
- รู้จักทิ้งขยะให้เป็นที่ ซึ่งเป็นพื้นฐานง่ายๆ ที่แสดงความรับผิดชอบต่อส่วนรวมและสิ่งแวดล้อม
- รู้จักต่อคิว อดทนรอ เป็นทักษะสำคัญที่ช่วยสร้างระเบียบวินัย ความอดทน และการไม่เอาเปรียบผู้อื่น
![มูลนิธิเด็กโสสะ - 10 มารยาทพื้นฐานที่ควรปลูกฝังให้ลูกรัก - หมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ต]()
มารยาท สร้างพลเมืองที่ดี ให้โลกน่าอยู่ขึ้น
การสอนมารยาทให้ลูกไม่ใช่แค่ทำให้ลูกของเราเป็นคนน่ารักเท่านั้น แต่เป็นการสร้าง "พลเมืองที่ดี" ที่จะเติบโตไปเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคมให้ดียิ่งขึ้น มารยาทเป็นเหมือนเมล็ดพันธุ์แห่งความดีที่เราปลูกฝังในใจเด็กตั้งแต่เล็ก เพื่อให้พวกเขาเบ่งบานเป็นดอกไม้ที่สวยงาม และสร้างร่มเงาให้แก่ผู้อื่นได้ในอนาคต ทำให้โลกที่เราอาศัยอยู่เป็นสถานที่ที่น่าอยู่ขึ้นสำหรับทุกคน
ที่ มูลนิธิเด็กโสสะฯ เราไม่ได้เพียงแค่ให้ที่พักพิง แต่เราสร้าง "ครอบครัวทดแทน" ที่อบอุ่นให้พวกเขามีแม่โสสะคอยดูแล ได้รับการศึกษา โภชนาการ และการดูแลเอาใจใส่ในทุกๆ ด้าน รวมถึงการปลูกฝังมารยาทและทักษะชีวิตที่จำเป็น เพื่อให้เด็กๆ ร่วม 600 ชีวิตในหมู่บ้านเด็กโสสะ 5 แห่งทั่วประเทศ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบ และสามารถออกไปใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างภาคภูมิใจและพึ่งพาตนเองได้ เหมือนกับลูกรักของทุกครอบครัวที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างเต็มที่จากผู้ปกครอง