มูลนิธิเด็กโสสะ-5 วิธีคลายเครียดให้แม่ – สุขภาพใจดีได้ ไม่ต้องกังวล banner
สิงหาคม 1 2568

5 วิธีคลายเครียดให้แม่ – สุขภาพใจดีได้ ไม่ต้องกังวล

เมื่อพูดถึงคำว่า “สุขภาพ” เรามักนึกถึงเรื่องร่างกายเป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริง สุขภาพจิต โดยเฉพาะของ “แม่” ที่มักทำหน้าที่หลายบทบาทในครอบครัว ก็เป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจไม่แพ้กัน

คุณแม่หลายท่านในวัยกลางคนขึ้นไปมักเผชิญกับความเครียดสะสมจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ เช่น วัยทอง การปรับตัวในช่วงเกษียณอายุ หรือแม้แต่การที่ลูกๆ เริ่มเติบโตและแยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง นอกจากนี้ ปัจจัยทางสังคมในยุคปัจจุบันที่ชีวิตหมุนเร็วและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยังส่งผลให้ความเครียดสะสมได้ง่ายยิ่งขึ้น บทความนี้จึงชวนคุณมาเรียนรู้ 5 วิธีง่ายๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าช่วยคลายเครียดให้คุณแม่ได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องพึ่งยา เพื่อให้คุณแม่แข็งแรงทั้งกายและใจ พร้อมเป็น “หัวใจ” ของบ้านที่เปี่ยมสุขได้อีกนานแสนนาน

มูลนิธิเด็กโสสะฯ - 5 วิธีคลายเครียดให้แม่  สุขภาพใจดีได้ ไม่ต้องกังวล - infographic

5 วิธีคลายเครียดให้แม่ ที่คุณลูกควรรู้!

1. ฟังแม่ให้จบ โดยไม่ขัดจังหวะ – การรับฟังคือยาใจที่ดีที่สุด

บางครั้ง สิ่งที่แม่ต้องการอาจไม่ใช่คำแนะนำ หรือทางออกของปัญหา แต่เป็น “พื้นที่ที่ได้พูด” และ “ความรู้สึกว่ายังมีคนพร้อมรับฟัง” อย่างแท้จริง การได้ระบายความรู้สึก ความคิด หรือเรื่องราวที่ค้างคาใจออกมา เป็นกลไกธรรมชาติที่ช่วยลดความตึงเครียดภายในจิตใจได้อย่างมหาศาล

ลองทำดู: จัดเวลาเพียงวันละ 10–15 นาที นั่งลงข้างๆ ตั้งใจฟังแม่เล่าเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยในชีวิตประจำวัน ความรู้สึกกังวลใจ หรือแม้แต่ความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ได้พบเจอ โดยไม่ตัดบท ไม่รีบแสดงความคิดเห็น หรือรีบแก้ปัญหาให้แม่ การฟังอย่างตั้งใจจะทำให้แม่รู้สึกว่า "ยังเป็นคนสำคัญ" และ "ยังมีคนแคร์" ซึ่งจะช่วยสร้างความผูกพันในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หรือหากเป็นไปได้ ลองหาเวลาพูดคุยกันให้มากขึ้น เล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันแลกเปลี่ยนกันเสมอ

ประโยชน์ที่ได้รับ: การรับฟังอย่างลึกซึ้งช่วยลดความเครียดสะสม ลดความดันโลหิต และช่วยให้คุณแม่รู้สึกเชื่อมโยงกับคนในครอบครัวมากขึ้น ลดความรู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกทอดทิ้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ และยังช่วยเสริมสร้างสุขภาพใจให้แข็งแรงจากภายใน

2. พาแม่ออกไปเดินเล่น – พลังบำบัดจากธรรมชาติ คือ ยาคลายเครียดที่ดีที่สุด

ธรรมชาติคือของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากโลกใบนี้ และมีพลังในการบำบัดจิตใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ การได้ใช้เวลาอยู่ในพื้นที่สีเขียว ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ สนามหน้าบ้าน หรือแม้แต่ระเบียงที่มีต้นไม้ ก็สามารถช่วยลดระดับความเครียดได้

ลองทำดู: ชวนแม่ไปเดินเล่นในสวนสาธารณะใกล้บ้าน หรือเดินรอบๆ บริเวณบ้านที่มีต้นไม้ใบหญ้า การเคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ ไปพร้อมกับการสูดอากาศบริสุทธิ์และชื่นชมความงามของธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเซโรโทนินในสมอง (สารแห่งความสุข) และลดระดับคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือหากมีเวลาลองจัดทริปพากันออกไปเที่ยวพักผ่อน สร้างความสุขให้กับครอบครัว

ข้อแนะนำเพิ่มเติม: หากลูกอยู่ไกล ไม่สะดวกที่จะพาแม่ไปบ่อยๆ ลองใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เช่น วิดีโอคอลคุยกันขณะเดินเล่นพร้อมกัน หรือส่งรูปภาพสวยๆ ของธรรมชาติให้แม่ดูวันละรูป เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและกระตุ้นความรู้สึกผ่อนคลาย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการหาเวลาพาแม่ไปสัมผัสกับธรรมชาติจริงๆ บ้าง เช่น การจัดทริปสั้นๆ ไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ที่มีธรรมชาติสวยงาม ก็จะช่วยฟื้นฟูทั้งกายและใจได้อย่างเต็มที่

3. เปิดเพลงยุคแม่ แล้วร้องด้วยกัน – ดนตรีบำบัดที่เข้าถึงหัวใจ

ดนตรีมีผลกระทบโดยตรงต่อสมองและอารมณ์ของมนุษย์ โดยเฉพาะบทเพลงที่แม่เคยชื่นชอบในวัยสาว หรือเพลงที่คุ้นเคยในยุคสมัยของท่าน จะมีพลังในการกระตุ้นความทรงจำดีๆ และความรู้สึกอบอุ่นในอดีตขึ้นมา การได้หวนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านเสียงเพลง เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการคลายความกังวลและเพิ่มความสุขให้กับคุณแม่

ลองทำดู: ลองหาโอกาสจัด Playlist เพลงไทย-สากลยอดนิยมในยุค 70s-90s ซึ่งเป็นช่วงวัยหนุ่มสาวของคุณแม่ แล้วเปิดให้ท่านฟังในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ช่วงเย็นหลังอาหาร หรือเปิดคลอเบาๆ ระหว่างทำอาหารด้วยกัน การชวนแม่ร้องเพลงตามไปด้วย จะช่วยให้เกิดการหายใจลึกขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นการบริหารปอดและช่วยลดความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ที่ได้รับ: ดนตรีช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์และความทรงจำ ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด และเพิ่มการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุขตามธรรมชาติในร่างกาย นอกจากนี้ การร้องเพลงร่วมกันยังเป็นการสร้างกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวที่สนุกสนานและสร้างเสียงหัวเราะได้อีกด้วย

4. อย่าลืมกอดแม่ – สัมผัสแห่งรักที่ส่งผลยาวนาน

“การกอด” เป็นภาษาสากลที่สื่อถึงความรัก ความห่วงใย และการปลอบประโลม มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์มากมายที่รองรับว่า การสัมผัสทางกาย เช่น การกอด ช่วยลดระดับฮอร์โมนความเครียดอย่างคอร์ติซอล และเพิ่มการหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน ซึ่งเป็น "ฮอร์โมนแห่งความรัก" และความผูกพัน การกอดเพียงสั้นๆ ก็สามารถสร้างความรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และลดความรู้สึกโดดเดี่ยวในจิตใจได้อย่างมหาศาล

ลองทำดู: หมั่นกอดแม่ให้บ่อยขึ้น อาจจะเป็นก่อนไปทำงาน หลังกลับจากทำงาน หรือในทุกๆ โอกาสที่ทำได้ การจับมือ การลูบหลังเบาๆ หรือการนวดไหล่ให้แม่ ก็ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกัน เพราะเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจและความรักผ่านการสัมผัสทางกาย

ข้อแนะนำเพิ่มเติม: หากลูกอยู่ห่างไกล ไม่สามารถกอดแม่ได้ทุกวัน ลองส่งข้อความสั้นๆ ที่แสดงความรักและความคิดถึง เช่น “คิดถึงแม่นะคะ/ครับ” อาจส่งของขวัญเล็กๆ หรือของที่ระลึกที่สื่อถึงความผูกพัน สิ่งเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้กับคุณแม่ได้ แม้จะอยู่ไกลกันก็ตาม

5. ชวนแม่ทำบุญ – เติมใจแม่ด้วยพลังแห่งการให้

การทำบุญไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่แค่การไปวัดเสมอไป การร่วมบริจาค หรือการช่วยเหลือผู้อื่นเล็กๆ น้อยๆ ด้วยใจที่บริสุทธิ์ ก็ถือเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน คุณแม่หลายท่าน โดยเฉพาะในวัยสูงอายุ จะรู้สึก "มีคุณค่า" และ "ได้เป็นผู้ให้" การได้ช่วยเหลือผู้อื่นเป็นสิ่งที่ช่วยลดความวิตกกังวลในวัยสูงอายุ และเติมเต็มความสุขทางใจได้อย่างลึกซึ้ง

ลองทำดู: นอกเหนือจากการชวนแม่ไปวัดทำบุญตามโอกาสแล้ว ลองชวนแม่ร่วมบริจาคเพื่อช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ที่แม่สนใจ เช่น การบริจาคเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง การช่วยเหลือผู้เด็ก และผู้ด้อยโอกาส หรือการสนับสนุนองค์กรที่ทำงานเพื่อสังคม สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างพลังงานดีๆ แห่งการแบ่งปันในจิตใจของแม่ และทำให้แม่รู้สึกว่าชีวิตยังมีเป้าหมายและเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสิ่งดีๆ ให้กับโลก

ประโยชน์ที่ได้รับ: การได้ทำบุญและแบ่งปันช่วยเพิ่มความสุขทางใจ ลดความรู้สึกว่างเปล่าและโดดเดี่ยว และช่วยให้คุณแม่รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพจิตโดยรวม และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

มูลนิธิเด็กโสสะฯ - ครอบครัวโสสะ ความรักและความใส่ใจ

ความสุขของแม่เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า “ความรักและความใส่ใจ”

การคลายเครียดให้คุณแม่ ไม่จำเป็นต้องพึ่งวิธีที่ซับซ้อน หรือต้องใช้ยาเสมอไป เพราะ “ความรัก” และ “ความใส่ใจ” จากลูกๆ คือยาที่ดีที่สุดและเปี่ยมด้วยพลังบำบัดที่ไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้ ทุกสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่คุณทำด้วยใจ จะหล่อเลี้ยงหัวใจของคุณแม่ให้แข็งแรงและมีความสุขได้อย่างยั่งยืน

และถ้าคุณอยากให้ความรัก ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่จากแม่ ถูกส่งต่อไปยังเด็กๆ ที่ขาดโอกาส เพื่อให้พวกเขามีโอกาสได้สัมผัสกับความรักและความอบอุ่นในชีวิตเหมือนที่คุณแม่มอบให้คุณ ลองชวนแม่ร่วมทำบุญ “ให้แม่ยิ้มวันนี้ และให้เด็กอีกคนยิ้มได้ในวันข้างหน้า” เพื่อให้เด็กที่สูญเสียครอบครัวในมูลนิธิเด็กโสสะฯ ได้มีแม่ ในชีวิตอีกครั้ง

 

ร่วมบริจาคและสนับสนุนแม่โสสะ


อ้างอิง

Active Listening: The Art of Empathetic Conversation
Get Outside: The Many Ways Nature Can Boost Your Mental Well-Being
What makes music therapy effective?
Oxytocin: embracing the hug hormone

Copyright © All Right Reserved