พฤษภาคม 27 2568
10 ข้อตกลง ก่อนให้ลูกเล่นมือถือ/แท็บเล็ต
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ การใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือและแท็บเล็ต กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเราทุกคนอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การใช้งานที่ไม่มีการควบคุมอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะกับเด็กๆ ซึ่งอยู่ในวัยเรียนรู้ จดจำ และต้องการพัฒนาการอย่างเหมาะสมเพื่อเติบโตอย่างมีคุณภาพ ดังนั้น การกำหนดข้อตกลงระหว่างพ่อแม่และลูกก่อนให้ใช้อุปกรณ์เหล่านี้จึงเป็นสิ่งจำเป็น
![มูลนิธิเด็กโสสะ-10 ข้อตกลง ก่อนให้ลูกเล่นมือถือ/แท็บเล็ต-infographic]()
10 ข้อตกลง ก่อนให้ลูกเล่นมือถือ แท็บเล็ต
1. กำหนดเวลาใช้งานที่เหมาะสม
การกำหนดเวลาใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลที่เหมาะสมกับวัยของเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาสุขภาพและพฤติกรรมที่อาจเกิดขึ้น
- เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรให้ดูจอทุกชนิด
- เด็กอายุ 2-5 ปี ควรจำกัดเวลาใช้งานไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน
- สำหรับเด็กอายุ 6 ปีขึ้นไป ควรมีการกำหนดเวลาที่เหมาะสมและส่งเสริมกิจกรรมอื่น ๆ นอกเหนือจากการใช้อุปกรณ์ดิจิทัล
2. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ขณะรับประทานอาหารและก่อนนอน
การใช้อุปกรณ์ดิจิทัลขณะรับประทานอาหารอาจทำให้เด็กไม่สนใจอาหารและส่งผลต่อสุขภาพการกิน นอกจากนี้ การใช้อุปกรณ์ก่อนนอนอาจรบกวนการนอนหลับของเด็ก ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่กระตุ้นความตื่นเต้นหรือเผชิญกับแสงจ้าในช่วง 2-3 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อให้เด็กมีการนอนหลับที่มีคุณภาพ
3. หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ขณะทำการบ้าน
หากไม่ใช่การใช้เพื่อศึกษาหาข้อมูล การเล่นมือถือ/แท็บเล็ตขณะทำการบ้านอาจทำให้เด็กเสียสมาธิและลดประสิทธิภาพในการเรียนรู้ พ่อแม่จึงควรกำหนดเวลาสำหรับการเรียนและการใช้อุปกรณ์อย่างชัดเจน เพื่อให้เด็กสามารถจัดการเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น อนุญาตให้เล่นเกม ดูหนัง เป็นเวลา 2 ชั่วโมง หลังจากทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว
4. ขออนุญาตก่อนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือซื้อสินค้าในเกม
การเล่นเกมไม่ใช่เรื่องผิด แต่ผู้ปกครองควรสีส่วนร่วมในการเลือกเกมที่เหมาะสมกับวัยของเด็ก เกมที่ช่วยในการเรียนรู้และเสริมพัฒนาการ รวมถึงการกำหนดเวลาเล่นที่ชัดเจนเพื่อป้องกันการติดเกม ที่สำคัญ คือ เด็กควรได้รับการสอนให้ขออนุญาตจากพ่อแม่ก่อนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันใหม่ หรือทำการซื้อสินค้าในเกม เพื่อป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือการใช้จ่ายเงินโดยไม่จำเป็น การมีส่วนร่วมของพ่อแม่ในการเลือกแอปพลิเคชันจะช่วยให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสม
5. ตระหนักถึงการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล
การสอนเด็กเกี่ยวกับความสำคัญของการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิ่งจำเป็น เด็กควรหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือข้อมูลอื่นๆ รวมถึงการเช็คอินแบบเรียลไทม์ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกละเมิดความเป็นส่วนตัวหรือการถูกคุกคาม
6. หลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนแปลกหน้าออนไลน์
เด็กควรได้รับการสอนให้ระมัดระวังในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลที่ไม่รู้จักบนโลกออนไลน์ การรับแอดหรือพูดคุยกับคนแปลกหน้าอาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่างๆ เช่น การถูกหลอกลวงหรือการถูกคุกคาม พ่อแม่ควรเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยในการสื่อสารออนไลน์
7. รายงานเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
หากเด็กพบเจอเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมหรือน่ากลัวบนโลกออนไลน์ ควรรายงานให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองทราบทันที ดังนั้น การสร้างความไว้วางใจและเปิดโอกาสให้เด็กพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ออนไลน์จะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและเสริมสร้างความปลอดภัย
8. ใช้อุปกรณ์ในพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน
การกำหนดให้เด็กใช้อุปกรณ์ดิจิทัลในพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน เช่น ห้องนั่งเล่น จะช่วยให้พ่อแม่สามารถสอดส่องและให้คำแนะนำการใช้งานได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและส่งเสริมการสื่อสารภายในครอบครัว
9. ปฏิบัติตามคำขอของพ่อแม่ทันที
การสอนให้เด็กหยุดใช้อุปกรณ์ดิจิทัลทันทีเมื่อพ่อแม่เรียกหรือขอให้หยุด เป็นการฝึกวินัยและความเคารพต่อกฎของครอบครัว พ่อแม่สามารถใช้วิธีการเตือนล่วงหน้า เช่น แจ้งให้เด็กทราบล่วงหน้าก่อนเวลาที่กำหนด เพื่อให้เด็กมีเวลาปรับตัวและเตรียมใจ แต่ทั้งนี้พ่อแม่ไม่ควรใช้คำสั่งเชิงบังคับ แต่เป็นการพูดคุยด้วยเหตุผลถึงสาเหตุที่ขอให้หยุดเล่น เพื่อให้เด็กเข้าใจ
10. กำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมเมื่อฝ่าฝืนข้อตกลง
กรณีที่เด็กฝ่าฝืนข้อตกลงที่กำหนดไว้ ควรกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมและสอดคล้องกับพฤติกรรมที่เกิดขึ้น การใช้เหตุผลและการสื่อสารอย่างเปิดเผยจะช่วยให้เด็กเข้าใจถึงผลกระทบของการกระทำและเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น หากลูกไม่เลิกเล่นตามเวลาที่กำหนดก็จะอดเล่นในวันถัดไป, หากลูกเล่นมือถือในเวลาทานข้าว ก็จะถูกงดขนมหรือริบมือถือเป็นเวลา 1 วัน เป็นต้น แต่อย่างไร หากลูกสามารถปรับพฤติกรรมได้ พ่อแม่ควรให้คำชื่มชมหรือรางวัลเล็กน้อยเพื่อเป็นกำลังได้ด้วยนะคะ
อ่านเพิ่มเติม
![มูลนิธิเด็กโสสะ-อบรมการป้องกันภัยจากสื่อสังคมออนไลน์]()
มูลนิธิเด็กโสสะ-สร้างสังคมที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับเด็ก
มูลนิธิเด็กโสสะฯ เราเชื่อว่าทุกเด็กควรเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย อบอุ่น และเต็มไปด้วยความรัก ไม่ว่าจะเป็นในโลกจริงหรือโลกออนไลน์ เราส่งเสริมให้เด็กได้รับการดูแลเอาใจใส่ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการใช้งานเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และปลอดภัย โดยมีการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้กับผู้เลี้ยงดู คุณแม่โสสะ คุณน้า และเด็กๆ เพื่อสร้างความตระหนักและปกป้องตนเองจากภัยออนไลน์ต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมเสริมทักษะทั้งด้านสมอง ร่างกาย และจิตใจ เพื่อให้เด็กได้มีเวลาผ่อนคลาย ลดการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอ และกระชับความสัมพัน์ที่ดีต่อกันในครอบครัว
![มูลนิธิเด็กโสสะฯ-สร้างสังคมที่ปลอดภัยและอบอุ่นสำหรับเด็ก]()
ด้วยการสนับสนุนจากคุณ เราสามารถช่วยเหลือเด็กๆ ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ร่วมสนับสนุนเพื่อส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตของเด็กๆ
![SOSThailand-QRCode-TTB-eDonation-08]()
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต
เลขบัญชี 1711021871
อ้างอิง
Parents One
happyhomeclinic