คุณเพชร ลูกโสสะบางปู

คุณเพชร ลูกโสสะบางปู

ความสำเร็จในชีวิตของคนเรานั้นไม่ได้มีสูตรกำหนด หรือกฎเกณฑ์ตายตัว และมาตรวัดคุณภาพชีวิตในบางครั้ง ก็มิใช่เพียงวัดกันที่การศึกษา ฐานะทางสังคมเท่านั้น หากสำหรับคนบางคน ยังขึ้นอยู่กับว่า ใช้สองขาในการยืนให้มั่นคงได้อย่างไร และมีความสุข ความพอใจในชีวิตมากน้อยแค่ไหนต่างหาก ดั่งชีวิตของ เพชร สร้อยเพชร ความสำเร็จของลูกโสสะ

จำเหตุการณ์ในวันแรกที่เข้ามาอยู่หมู่บ้านเด็กโสสะได้หรือไม่?
ไม่ได้ครับ จำได้แค่ว่า เติบโตมากับครอบครัวโสสะ พร้อมกับน้องชายร่วมสายเลือดอีกคนหนึ่ง และก็เติบโตมากับพี่น้องภายในบ้านคนอื่นๆ กับเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน

 
ช่วยเล่าชีวิตในหมู่บ้านเด็กโสสะให้เราฟังหน่อยค่ะว่าเป็นอย่างไรบ้าง?
ชีวิตในวัยเด็กก็สนุกสนานครับ มีเพื่อนๆ ที่อยู่ร่วมกับเราเยอะ เราก็เล่นไปตามประสาเด็ก แต่ใช่ว่าเราเล่นกันอย่างเดียวนะครับ เรายังมีหน้าที่ที่ต้องเรียนหนังสือ ทุกคนจะได้มีวิชาติดตัวไปทำมาหากิน อยู่ที่นี่เรามีคุณแม่โสสะที่ให้การดูแล ท่านจะคอยอบรมสั่งสอน แบ่งหน้าที่มอบหมายงานบ้านให้กับลูกๆ ตั้งแต่งานบ้านเล็กๆ ไปจนถึงหน้าที่ยากๆ สำหรับเด็กผู้ชายอย่างผม นั่นก็คือต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ไปจ่ายตลาดกับแม่แล้วก็ทำกับข้าวครับ ผมคิดว่าที่นี่เป็นทั้งบ้านเป็นทั้งโรงเรียนชีวิต สิ่งไหนถ้าเราไม่ลงมือทำ เราก็จะไม่รู้ และเมื่อไหร่ที่เราไม่รู้ นั่นล่ะ เตรียมรับมือกับความยากลำบากของชีวิตในอนาคตได้เลย พอผมอายุได้ 14 ปี ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านเยาวชนชาย เพื่อเรียนรู้กิจกรรมของเด็กชาย โดยมีคุณอาบ้านเยาวชนคอยดูแลพวกผมแทนคุณแม่โสสะ  แต่ผมและเด็กผู้ชายคนอื่นๆ ยังสามารถกลับไปหาแม่และน้องในหมู่บ้านเด็กโสสะได้เหมือนเดิม บางทีกลับไปช่วยแม่ทำงานบ้าน เลี้ยงน้องตัวเล็กๆ หรือไม่ก็ไปช่วยตัดหญ้าในหมู่บ้านครับ
 

เพชรในวัย 7 ขวบ

วันที่ต้องออกมาใช้ชีวิตนอกหมู่บ้านเด็กโสสะแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
ผมเป็นคนที่หัวไม่ค่อยดีเรื่องการเรียนจึงเลือกเรียนสายวิชาชีพ จบการศึกษาแค่ระดับ ปวช. ที่ชำนิเทคโนโลยี สมุทรปราการ แผนกไฟฟ้า เรียนจบก็หางานทำอยู่สักพักแล้วก็ออกจากหมู่บ้านมา พอมาอยู่ข้างนอก ชีวิตก็แตกต่างไปเลย ต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง แต่ใจเราก็ยังสู้ คิดว่าเราต้องยืนด้วยขาของตัวเองให้ได้ ชีวิตผมผ่านงานมาหลายอย่าง หนักก็ต้องเอา เบาก็ต้องสู้ คนขยันไม่อดตายครับ จนมาถึงปัจจุบันรับงานวิ่งรถส่งของให้กับบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
 
รู้สึกน้อยใจในโชคชะตาชีวิตของตัวเองบ้างไหมคะ?
ไม่นะครับ เพราะเราไม่สามารถหนีความเป็นจริงของชีวิตไปได้ ทำใจยอมรับกับมันแล้วเราก็จะมีความสุข สำหรับผมกลับรู้สึกภูมิใจมากกว่าที่เรามีวันนี้ ใครถามเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตผม ผมบอกได้เต็มปากเลยว่าผมเป็นลูกโสสะ ผมโชคดีมากๆ ที่ได้มีโอกาสได้เข้ามาอยู่กับครอบครัวโสสะ เพราะที่นี่มีที่ให้อาศัยอยู่ มีอาหารให้เรากิน แล้วยังได้เรียนหนังสืออีก แต่ที่วิเศษสุดสำหรับเด็กกำพร้าอย่างเรา คือ การที่ได้มีครอบครัว มีคนที่ยอมรับและรักเราอีกครั้ง
 

ลูกสาวทั้งสองและภรรยาของคุณเพชร

อยากฝากบอกอะไรถึงทุกคนหรือไม่?
ทุกวันนี้ ถึงแม้ชีวิตผมไม่ได้เต็มร้อยหรือเกินร้อยเหมือนอย่างคนอื่นๆ เขา แต่เราก็ภูมิใจและพอใจในชีวิตที่เป็นอยู่ หรือแม้จะเหน็ดเหนื่อยหรือพบกับปัญหาบ้างในบางที แต่ผมก็มีครอบครัวโสสะและครอบครัวของผมเอง (ภรรยาและลูกสาว) ที่คอยเป็นกำลังใจและอยู่เคียงข้างผมเสมอ ชีวิตของผมเริ่มต้นจากครอบครัวโสสะ เริ่มต้นจากท่านผู้บริจาคที่มีจิตเมตตาให้กับลูกโสสะอย่างผมและน้องๆ เสมอมา ผมไม่รู้จะหาสิ่งใดมาทดแทนให้สมกับสิ่งที่ทุกคนให้มา นอกจากคำขอบคุณจากหัวใจดวงนี้ ผมขอให้ความดีที่ท่านได้ทำมานั้น ส่งผลกลับไปเป็นความสุขทั้งกายและใจครับ