คุณปานหทัย ลูกโสสะบางปู

คุณปานหทัย ลูกโสสะบางปู

ปานหทัย ศิรีบำรุงสุข หรือ “น้องแพร” หนึ่งในความสำเร็จของลูกโสสะ จบการศึกษาจากเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี คณะบริหารธุรกิจสาขาการเงิน ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาป่าตอง ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ Supervisor ธุรกิจการขาย และในวันนี้ได้ทำหน้าที่เป็นคุณแม่ของลูกชายวัยเก้าเดือน


"น้องแพรรู้แล้วค่ะว่าการเป็นแม่คนไม่ใช่เรื่องง่าย  เริ่มตั้งแต่ตั้งท้องเลยก็ว่าได้ เราต้องดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีเพื่อที่ลูกในท้องจะได้แข็งแรง พอคลอดเขามายิ่งเพิ่มความยากและความเหนื่อยเข้าไปอีก ช่วงสามเดือนแรกเขาจะตื่นบ่อยมาก ทุกๆ สองชั่วโมงจะลุกขึ้นมากินนม  โชคดีว่าช่วงสามเดือนแรกที่คลอด น้องแพรไม่ต้องไปทำงานจึงทำให้ดูแลลูกได้เต็มที่ แต่ก็ทำให้น้องแพรน้ำหนักตัวลดเลยนะคะ"


"พอเขาเข้าเดือนที่สี่น้องแพรต้องไปทำงาน กลับจากทำงานก็ต้องเลี้ยงลูก หนึ่งวันมี 24 ชั่วโมง น้องแพรอยากให้มีเพิ่มอีกสัก 3 – 4 ชั่วโมง เพราะรู้สึกว่าเวลาที่อยู่กับครอบครัวผ่านไปเร็วมาก ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือสิ่งต่างๆ ที่พบเจอมา พอมาเจอหน้าลูกและสามีมันทำให้เรามีพลังเพิ่มเข้ามาอีก ไม่รู้ว่าพลังงานส่วนนี้เพิ่มได้อย่างไร  อาจจะเป็นพลังงานที่เกิดขึ้นจากความรักนะคะที่ผลักดันเราให้สามารถมีเรี่ยวแรงขึ้นมาได้"

น้องแพรกับคุณนาถลดา แม่โสสะ


เมื่อน้องแพรได้เป็นคุณแม่ ทำให้น้องแพรนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง นั่นก็คือ คุณแม่นาถลดา มีฤกษ์งาม คุณแม่โสสะที่เลี้ยงดูน้องแพรมาตั้งแต่อายุเพียง 3 เดือนเท่านั้น ถึงแม่จะไม่ใช่แม่แท้ๆ แต่ความรัก ความเอาใจใส่ที่แม่มีให้นั้นไม่ได้ต่างจากคนที่เป็นแม่แท้ๆ เลย  แม่ไม่ได้เลี้ยงแค่น้องแพรคนเดียว แต่ยังมีลูกโสสะที่ต้องดูแลในบ้านอีกเป็นสิบคน  ทุกวันแม่ต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า ทำหน้าที่ดูแลบ้านและลูกๆ เวลานอนก็เข้านอนก็คนสุดท้าย แม่ทำหน้าที่นี้มาหลายสิบปี จากลูกรุ่นแล้วรุ่นเล่า วันนี้ แม่ก็ยังทำหน้าที่นี้อยู่  อย่างไม่เคยหยุดพักเลยสักวัน


แม้น้องแพรออกจากหมู่บ้านเด็กโสสะบางปู  สมุทรปราการแล้ว แต่สายสัมพันธ์ของความเป็นแม่ลูกของเรายังคงอยู่ตลอดไปชั่วชีวิต อ้อมแขนที่แม่เคยกอด ยังคงให้ความรู้สึกอบอุ่น มั่นคง และปลอดภัยสำหรับน้องแพรเสมอ  น้องแพรรักแม่ค่ะ และยังจดจำคำที่แม่สอนได้ แม่มักจะสอนให้น้องแพรเป็นคนดี ยิ่งมีคนที่ให้ความช่วยเหลือเรา ต้องตอบแทนทุกท่านด้วยการตั้งใจเรียน เพราะทุกคนปรารถนาให้เรามีอนาคตที่ดี อยู่ในสังคมนี้ได้อย่างมีความสุข


อีกทั้งน้องแพรขอขอบพระคุณผู้ที่มีจิตเมตตาทุกท่านที่มีต่อน้องแพรและพี่น้องในหมู่บ้านเด็กโสสะ เงินทุกบาททุกสตางค์ท่านหามาด้วยหยาดเหงื่อแรงกาย บางท่านมีภาระทางครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ แต่ยังมีน้ำใจแบ่งปันเพื่อมาช่วยเหลือ  สิ่งที่ท่านมอบให้กับลูกๆ โสสะนั้นมันยิ่งใหญ่มาก น้องแพรขออธิฐานให้ทุกท่านมีความเจริญทั้งในหน้าที่การงาน และมีครอบครัวที่มีสุขดังที่ได้มอบให้กับน้องแพรอีกครั้งค่ะ

แม้ว่าความสำเร็จจะต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อ แรงกาย หรือแรงใจ จากแม่โสสะและทุกๆ คนที่เมตตาได้ช่วยกันฟูมฟักหล่อเลี้ยงชีวิตของลูกโสสะให้เติบโตเจริญงอกงาม โดยไม่หวังผลตอบแทนใด สิ่งหนึ่งที่เชื่อมั่นได้ว่า จะตอบรับ “น้ำใจ” ไปยังทุกท่าน คือ ความรักและความสุข ที่อบอวลอยู่ในหัวใจของการเป็นผู้ได้ให้ตลอดไปนั่นเอง