น้องสวยในครอบครัวโสสะ

พลังแห่งหวัง พลังแห่งรัก ความสุขของ “น้องสวย” ในครอบครัวโสสะ

เม็ดเหงื่อผุดพร่างพราวหยดไหลย้อยลงสองข้างแก้มนวลของน้องสวย  วัย  18  ปี  สาวน้อยวัยแรกรุ่นที่กำลังวิ่งรอบสนามวอลเล่ย์บอลชายหาดพร้อมกับเพื่อนๆ เป็นรอบที่สิบแล้ว  ภาพของพวกเธอยามวิ่งตัดกับขอบท้องฟ้าและน้ำทะเลในยามเย็น  เหมือนนกที่กำลังบินกลับรังเรียงกันเป็นทิวแถว  เสียงปรบมือเปาะแปะ ส่งสัญญาณให้ทุกคนรับรู้พร้อมกับเสียงโค้ชผู้ฝึกสอนตะโกนก้อง   “ทุกคนหยุดก่อนได้  แล้วอีกสักพักลงสนามซ้อมกัน”

น้องสวยและเพื่อนๆ อีก 3 – 4 คน  วิ่งเหยาะๆ มาที่กระติกน้ำ เมื่อพักดื่มน้ำท่าเสร็จ  เราพอมีเวลาได้พูดคุยกันบ้าง  น้องสวยจึงได้บอกเล่าถึงความภาคภูมิใจในการได้เป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาดที่เธอชื่นชอบว่า


หนูชอบเล่นกีฬาวอลเล่ย์บอลชายหาดค่ะ  ทีมโสสะภูเก็ตเคยไปแข่งขันวอลเล่ย์บอลชายหาดในรายการวอลเล่ย์บอล พีทีที สคูล คัพ 2013 ที่หาดกะรน จังหวัดภูเก็ต  แล้วเราก็ได้แชมป์ในรายการนั้นมา  เป็นสิ่งที่หนูกับเพื่อนๆ ภูมิใจ  เพราะเราฝึกซ้อมกันหนักมาก  หนูว่า การเล่นกีฬา ไม่ว่าเราจะเล่นกีฬาประเภทไหนก็ตาม  มันช่วยสอนให้เราเป็นคนเต็มคนมากยิ่งขึ้น ถ้าเราคิดเป็น กีฬาสอนให้เรารู้จักการมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน  สอนให้เรามีระเบียบวินัย  มีสมาธิแน่วแน่และตั้งมั่น  รู้จักแพ้  รู้จักชนะ  รู้จักอภัย  และที่สำคัญสอนให้เราเป็นคนอดทน  ซึ่งความอดทนนี้แหละหนูว่าสำคัญ โดยเฉพาะกับลูกโสสะอย่างพวกเรา  ที่จะต้องฝ่าฟันแล้วเดินไปข้างหน้าตามฝันนั้นให้ถึง

น้องสวยมองทอดสายตาไปยังท้องทะเลที่อยู่เบื้องหน้าอย่างมีพลังแห่งความหวัง  แต่หากใครเลยจะรู้ว่า  สาวน้อยคนนี้ขาดไร้ซึ่งคนดูแลในวัยเด็ก  จนทำให้เธอได้เข้ามาอยู่ในการดูแลของครอบครัวโสสะ  และมีโอกาสในชีวิตจากผู้มีเมตตาที่เธอเองไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า


เปิดเทอมนี้  หนูต้องไปเรียนต่อในระดับปริญญาตรี  ก็แอบใจหายและเสียดายอยู่เหมือนกันค่ะ  เพราะจะไม่ได้เล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดแล้ว  อีกอย่างหนูคงคิดถึงแม่กับน้องๆ มาก  หนูยังไม่เคยต้องออกจากหมู่บ้านไปอยู่ที่ไหนไกลเลยสักครั้งค่ะ

น้องสวยเล่าได้เท่านี้ก็ต้องขอตัวไปซ้อมวอลเล่ย์บอลต่อ..


รถตู้สีขาววิ่งเข้ามาจอดที่หน้าอาคารสำนักงานในหมู่บ้านเด็กโสสะภูเก็ต  เพื่อมาส่งน้องๆ นักตบลูกหนังหลังจากเสร็จสิ้นการฝึกซ้อม ทุกคนต่างยกมือไหว้ขอบคุณ คุณอาเจ้าหน้าที่  ที่ดูแลลูกโสสะทุกคนในทีม แล้วก็พากันแยกย้ายเข้าบ้าน  สิ่งแรกที่เราได้เห็นตั้งแต่น้องสวยยังไม่ทันได้เข้าบ้านนั่นก็คือเด็กหญิงตัวเล็กคนหนึ่ง  อายุประมาณสี่ขวบ  ผมสั้นหน้าม้า กำลังวิ่งมารับพี่สาวด้วยใบหน้าแช่มชื่น

“พี่สวย  พี่สวยมาแล้ว”  เสียงแหลมเล็กเรียกชื่อ พอถึงตัวน้องสวยก็เกี่ยวกอดพี่สาวคนนี้ของเธอไว้แน่น “พี่สวยวันนี้หนูปวดท้อง  หนูคิดว่าคงเป็นเพราะไม่ได้กินแพนเค้กของพี่สวยแน่ๆเลย”  เด็กหญิงเงยหน้าขึ้น  ทำหน้าตาบิดเบี้ยว พูดกับพี่สาวของเธอ มือน้อยเขย่าแขนพี่สาวของเธอเบาๆ “พี่สวยทำขนมแพนเค้กให้หนูกินนะ  หนูจะได้หายปวดท้องไง”  น้องสวยหัวเราะกับความช่างจ้อ  และขี้อ้อนของน้องสาวคนนี้ที่พยายามหว่านล้อมให้เธอทำขนมให้กิน


“พอละ  พอละ  เดี๋ยวพี่อาบน้ำก่อนนะ  แล้วจะทำให้กิน”  น้องสวยก้มตัวลง  สองแขนโอบตัวน้องสาวแล้วอุ้มขึ้นมาหอมแก้มฟอดใหญ่ด้วยความรักใคร่เอ็นดู  จากนั้นสองพี่น้องก็พากันเดินเข้าบ้านไป

น้องสวยเป็นลูกคนโตในบ้าน  ส่วนน้องสาวคนนี้เป็นคนเล็ก  ในบ้านที่อาศัยอยู่นี้มีพี่น้องประมาณ 10 คน  พี่น้องทุกคนล้วนแล้วไม่มีความเกี่ยวข้องกันแม้กระทั่งสายเลือด  แต่สิ่งที่เชื่อมโยงพวกเขาไว้ด้วยกันนั่นก็คือความรัก  ความผูกพัน ที่ก่อตัวขึ้นตั้งแต่ทุกคนได้เข้ามาเป็นพี่น้องกัน เป็นลูกของโสสะที่มีแม่คนเดียวกัน ยิ่งเวลาผันผ่านไปนานเท่าไหร่  ความรักและความผูกพันนี้ย่อมแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

น้องสวยกับคุณสุเมธญา คุณแม่โสสะและน้องสาว    

กลิ่นหอมกรุ่นของแป้งขนมและเนยที่ถูกความร้อนจากเตาไฟลอยออกมาจากห้องครัว  ช่างยั่วให้น้ำลายสอ  มองเข้าไปเห็นเด็กหญิงตัวน้อยชะเง้อ ชะแง้  มองขนมบนเตาด้วยความอยากกิน มือข้างหนึ่งถือตุ๊กตาตัวโปรด  ยืนอยู่ข้างกายพี่สาวไม่ห่าง  “อีกเดี๋ยวก็จะเสร็จแล้วนะ  รอก่อน  จะได้เอาไปกินพร้อมกัน”  เสียงน้องสวยแว่วออกมา


 “น้องสวยเป็นเด็กดีค่ะช่วยเหลือแม่หลายอย่างทั้งงานบ้าน  ดูแลน้อง  และเป็นเด็กตั้งใจเรียน  นี่ก็สอบติดตั้งหลายที่  แต่เขาเลือกเรียนทางด้านอนามัยและสิ่งแวดล้อม  ในมหาวิทยาลัยแถวจังหวัดสมุทรปราการ  เขาก็ต้องไปพักอยู่ที่หอ  แม่เองก็คงจะคิดถึงและเป็นห่วงเขา  เพราะน้องสวยไม่เคยออกไปไหนไกล   ยิ่งน้องๆ นี่ติดเขาแจเลยค่ะ  คงจะมีงอแงคิดถึงพี่สวยกันบ้างหล่ะคราวนี้  ส่วนแม่เองก็คอยให้คำแนะนำปรึกษา  มีอะไรจะเล่าสู่กันฟังตลอด   สิ่งสำคัญคือการเป็นกำลังใจให้ซึ่งกันและกัน  แม่เป็นกำลังใจให้ลูก  ลูกเป็นกำลังใจให้แม่  เราเดินประคับประคองกันไป”  คำบอกเล่าด้วยน้ำเสียงเปี่ยมรักจากคุณแม่สุเมธญา  พรหมพัฒน์  แม่โสสะผู้ให้การเลี้ยงดูลูกโสสะและน้องสวย

น้องสวยอ่านนิทานให้กับน้องๆ ในบ้านฟัง

น้องสวยเดินถือจานขนมแพนเค้ก  แผ่นกลม  สีเหลือง น่ารับประทาน เข้ามาให้กับคุณแม่และแขกผู้มาเยือน  


ชีวิตของพวกหนูก็คล้ายกับเด็กคนอื่นๆ ที่มีครอบครัวทั่วไปนี่แหละค่ะ  มีคุณแม่ให้ความรัก และดูแลเรา แตกต่างกันแค่เราเป็นครอบครัวใหญ่  มีพี่น้องหลายคน หนูไม่รู้สึกเหงาเลย กลับมีความสุขมากในบ้านหลังนี้  รู้สึกปลอดภัยที่สุดเวลาที่แม่กอดหนูไว้  หนูเคยจินตนาการเหมือนกันค่ะว่าถ้าไม่ได้มาอยู่ที่นี่ เป็นเด็กตัวเล็กยืนอยู่คนเดียว อ้างว้างโดดเดี่ยว ไม่มีใคร รู้สึกใจหายเลยค่ะ แต่ก็นับว่าเป็นความโชคดีของหนูและน้องๆ ที่ได้รับความเมตตาจากผู้บริจาค  ทำให้หนูได้มีอนาคตและครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง  หนูจะตั้งใจเล่าเรียนและเป็นคนดีของสังคม  ให้สมกับทุนทรัพย์และน้ำใจจากท่านที่ส่งมาให้ วันนี้หนูมีความสุขแล้ว หนูขอให้ความสุขนี้ส่งกลับไปถึงทุกๆ คนด้วยนะคะ

  สายตาส่องประกายความสุขบนใบหน้าเปื้อนยิ้ม สองมือพนมพร้อมก้มศีรษะลง ส่งคำขอบคุณจากใจลูกโสสะอย่างน้องสวยไปถึงยังผู้มีจิตเมตตาทุกคน
 


 
หมายเหตุ: ชื่อของเด็ก ในบทความนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายด้านสิทธิเด็ก