เครือข่ายด้านเด็กจัดงานเสวนาความร่วมมือ ACWC สร้างความเข้มแข็งงานการคุ้มครองเด็ก

สำนักงานภูมิภาคเอเชียขององค์กรหมู่บ้านเด็ก เอส โอ เอส สากล องค์กรดำเนินงานช่วยเหลือและพัฒนาเด็ก  โดยความร่วมมือของมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์  กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนอาเซียนประเทศไทยว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก จัดงานเสวนา ASEAN ACWC Strategic Partnership Collaborative Actions for Protection and Enhancing Well-Being of Children เพื่อเป็นเวทีในการหารือและสำรวจความร่วมมือในด้านการดำเนินงานตามกรอบการทำงานและแผนปฏิบัติการของอาเซียน เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของสตรีและเด็กในภูมิภาคอาเซียน มุ่งเน้นการบรรลุแผนการทำงานของคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) สำหรับปี พ.ศ. 2564-2568 อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณวันชัย รุจนวงศ์  ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก ASEAN Commission on the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children: ACWC และคุณอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน เข้าร่วมงานนี้ด้วย

ทั้งนี้ การเสวนาครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือในการดำเนินงานตามกรอบและแผนปฏิบัติการของอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องกับแผนการทำงานของคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) ระยะปี พ.ศ. 2564-2568 การดำเนินการดังกล่าวจะเสริมสร้างความมั่นคงในการคุ้มครองสิทธิเด็กในภูมิภาคอย่างยั่งยืน ซึ่งครอบคลุมหลายประเด็นสำคัญ เช่น การป้องกันความรุนแรงในเด็ก ความปลอดภัยในโลกออนไลน์ คุ้มครองเด็กในบริบทของการย้ายถิ่นฐาน และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นต้น 

คุณวันชัย รุจนวงศ์ ผู้แทนไทยในคณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก ASEAN Commission on the Promotion and Protection of the Rights of Women and Children: ACWC กล่าวว่า "อาเซียนต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความปลอดภัยและส่งเสริมสิทธิของเด็กและสตรีให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยมีมาตรการสำคัญ คือ ขจัดความรุนแรง จัดการกับความรุนแรงทุกรูปแบบด้วยมาตรการป้องกัน, สิทธิของเด็กผู้อพยพ การเข้าถึงบริการที่จำเป็น, ความปลอดภัยออนไลน์ เสริมสร้างการป้องกันและสร้างการรับรู้ และต่อสู้กับการค้ามนุษย์ เพิ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อสกัดกั้นเครือข่ายการค้ามนุษย์ โดยการทำงานร่วมกันในระดับภูมิภาคจะช่วยส่งเสริมการปกป้องและสนับสนุนสิทธิของเด็กและสตรีได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถดำรงชีวิตในสังคมที่ปลอดภัยและยั่งยืน"

คุณอภิญญา ชมภูมาศ อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กล่าวว่า “ดิฉันขอขอบคุณทุกองค์กรที่เกี่ยวข้องสำหรับความทุ่มเทและความพยายามอย่างต่อเนื่องในการปกป้องและส่งเสริมสิทธิของเด็กและเยาวชนในภูมิภาค ปัจจุบัน อาเซียนมีความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการจัดการกับปัญหาความรุนแรง การคุ้มครองสิทธิของเด็กผู้อพยพ การต่อสู้กับการละเมิดทางออนไลน์และการค้ามนุษย์ ตลอดจนการส่งเสริมความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จและสามารถมีส่วนช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับเด็กและสตรี”

Mr. Rajeev Kumar, Program Director-Asia, SOS Children’s Villages International กล่าวว่า "องค์กรหมู่บ้านเด็ก เอส โอ เอส สากล (SOS Children’s Villages) มีการทำงานใน 15 ประเทศในเอเชีย ในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งในช่วงสถานการณ์โรคระบาด องค์กรได้เผชิญกับความท้าทายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายของภาครัฐ และปัจจัยต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งปัญหาด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ด้วยเหตุนี้ องค์กรจึงต้องปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อช่วยเหลือเด็กที่อยู่ในภาวะยากลำบากให้สอดคล้องกับปัญหาและบริบทของแต่ละประเทศอีกด้วย โดยองค์กรให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลสุขภาพจิตของเด็กๆ เนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงต่างๆ อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขา ดังนั้นการส่งเสริมการดูแลสุขภาพจิตในเด็กจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยองค์กรได้จัดให้มีการดูแลด้านจิตวิทยาและการสนับสนุนทางอารมณ์ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและการเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงในชีวิตเด็ก"

ขณะเดียวกันปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความเป็นอยู่ของเด็กในภูมิภาคนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศนำมาซึ่งความท้าทาย เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ขาดแคลนอาหาร และการสูญเสียที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาและการดำรงชีวิตของเด็กอย่างยั่งยืน องค์กรจึงพยายามหาวิธีการที่ยั่งยืนและสอดคล้องกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อรองรับเด็กและชุมชนในระยะยาวอีกด้วย

ทั้งนี้การเสวนาในครั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรพันธมิตรจากหลากหลายประเทศและภาคส่วนในการระดมทรัพยากร แบ่งปันองค์ความรู้ และร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายที่มุ่งเน้นการคุ้มครองสิทธิเด็กและสตรีในภูมิภาคให้มีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น

มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทยฯ เป็นสมาชิกขององค์กรหมู่บ้านเด็ก เอส โอ เอส สากล (SOS Children’s Villages) ได้ดำเนินการช่วยเหลือเด็กไทยที่สูญเสียบิดามารดา ไร้ญาติมิตร ในรูปแบบครอบครัวทดแทน เด็กๆ จะได้รับการเลี้ยงดูในครอบครัวโสสะ จนได้รับการศึกษาสูงสุดจนออกไปประกอบอาชีพพึ่งพาตัวเองได้ ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในการดูแลของครอบครัวโสสะร่วม 700 คน  ในหมู่บ้านเด็กโสสะทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ บางปู สมุทรปราการ, หาดใหญ่ สงขลา, หนองคาย, เชียงราย และภูเก็ต มีเด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวโสสะจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่สามารถประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตัวเองได้แล้วกว่า  600  คน