6 กิจกรรมปิดเทอม เสริมพัฒนาการเด็ก

จากการสำรวจพฤติกรรมของเด็กอายุระหว่าง 8-12 ปี ในปี พ.ศ. 2561
พบว่าเด็กไทยใช้อินเทอร์เน็ต 35 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกถึง 3 ชั่วโมง โดยการเข้าถึงสื่อออนไลน์ที่มากเกินไปก็มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้ และยังพบว่าเด็กไทยมีโอกาสเสี่ยงภัยจากออนไลน์มากถึง 60% เมื่อเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 56%*

 

ดังนั้นช่วงเวลาปิดเทอม นอกจากจะเป็นเวลาที่เด็กๆ จะได้พักผ่อนจากการเรียนออนไลน์ หรือเรียนที่โรงเรียนแล้ว ยังถือเป็นโอกาสพิเศษที่เด็กจะได้พักจากหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เพื่อทำกิจกรรมตามความสนใจของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเรียนพิเศษเสริมทักษะ หรือกิจกรรมสร้างสรรค์อื่นๆ ที่หลากหลาย เพื่อสร้างเสริมพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจค่ะ หากใครยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดี เรามาดู 6 กิจกรรมที่เหมาะกับช่วงเวลาปิดเทอมนี้กันค่ะ
 


 

1. อ่านหนังสือ
ช่วงปิดเทอมนับเป็นเวลาอันดีที่จะได้เลือกหนังสือมาอ่านได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน หรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะหาหนังสือที่น่าสนใจ นั่งอ่านด้วยกันกับลูกๆ เพื่อทำให้การอ่านที่น่าเบื่อเป็นกิจกรรมที่สนุก ช่วยดึงดูดให้เด็กๆ รักการอ่านมากขึ้นค่ะ เพราะการอ่านหนังสือจะช่วยเสริมสร้างทั้งความรู้และจินตนาการได้เป็นอย่างดี แต่กระนั้นก็อย่าลืมแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมขยับร่างกายอื่นๆ เพื่อสร้างความแข็งแรงกันด้วยนะคะ

2. เรียนภาษา
ปัจจุบัน ความรู้ด้านภาษาที่สองหรือสาม นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยสร้างโอกาสในการทำงานให้กับเด็กๆ ในอนาคต การได้ฝึกภาษาตั้งแต่วัยเด็กซึ่งเป็นวัยที่กำลังเรียนรู้จดจำได้ดี จะช่วยให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

3. ทำกิจกรรมด้านศิลปะ
กิจกรรมด้านศิลปะไม่ว่าจะเป็นการวาดรูประบายสี การเล่นดนตรี หรือทำงานประดิษฐ์ที่สร้างสรรค์ต่างๆ นอกจากจะช่วยสร้างความสนุกสนานและผ่อนคลายให้กับเด็กแล้ว ยังช่วยเติมเต็มจินตนาการ ช่วยให้สมองเกิดพัฒนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะนำไปสู่การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองเสมอ นอกจากนี้เด็กๆ อาจจะได้ค้นพบพรสวรรค์ของตนเองนอกจากการเรียนด้านวิชาการ และนำไปสู่สายอาชีพในอนาคตได้ค่ะ

4. เล่นกีฬา
การเล่นกีฬาไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ปั่นจักรยาน แบดมินตัน ฟุตบอล บาสเก็ตบอล หรืออื่นๆ ตามความสนใจ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสุขภาพให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้เด็กๆ ได้ตามหาความชอบของตนเอง เกิดเป็นความรัก มุ่งมั่นฝึกฝนในกีฬาประเภทนั้นๆ จนนำไปสู่อาชีพหลักที่ช่วยเลี้ยงตนเองได้ในอนาคตค่ะ

5. ทำอาหาร
การเป็นลูกมือเข้าครัวช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำอาหาร หรือเรียนเสริมทำอาหารในเมนูต่างๆ ที่หลากหลาย จะช่วยฝึกฝนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ วิธีการทำอาหาร รวมถึงการคำนวณค่าใช้จ่าย นอกจากจะได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของอาหาร ยังเป็นทักษะติดตัวในการใช้ชีวิตด้วยตนเองเมื่อเติบโตขึ้น ไม่แน่ว่าเด็กบางคนอาจมีความสามารถพิเศษด้านอาหารจนสามารถต่อยอดสู่เส้นทางอาชีพได้ในอนาคตค่ะ

6. เล่นเกมพัฒนาสมอง
การเล่นเกม เช่น เกมการ์ด จิ๊กซอว์ เกมกระดาษ โดมิโน เป็นต้น นอกจากจะช่วยสร้างความบันเทิง สนุกสนาน หรือความผ่อนคลายแล้ว ยังแฝงด้วยประโยชน์ที่ช่วยพัฒนาสมองทำให้เกิดการคิด วิเคราะห์ วางแผน รวมถึงการสร้างสมาธิให้กับเด็กๆ ได้เกิดพัฒนาการทั้งด้าน IQ และ EQ ค่ะ
 


 

นอกจากการเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างเหมาะสมแล้ว มูลนิธิเด็กโสสะฯ ยังให้ความสำคัญกับพัฒนาการตามวัยที่เหมาะสมในทุกด้าน ด้วยการเติมเต็มความรู้และกิจกรรมเสริมต่างๆ ให้กับเด็กทุกคนค่ะ คุณพ่อคุณแม่ทุกท่านเองก็ลองปรึกษากับลูกๆ แล้วเลือกกิจกรรมที่สนใจ มาใช้โอกาสช่วงปิดเทอมเติมเต็มโลกแห่งการเรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างเสริมทักษะต่างๆ เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตที่มีศักยภาพ สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีความสุขในสังคมค่ะ 


อ้างอิง
ปัญหาสุขภาพเด็กวัยเรียนที่เข้าถึงสื่อออนไลน์*
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
Cottonbaby

Copyright © All Right Reserved