พฤศจิกายน 9 2558
เส้นทางฝันสู่ดวงดาว ที่ไม่เคยสิ้นหวัง
โชคชะตาชีวิต ไม่มีใครสามารถขีดเขียนได้ ดั่งเช่นชีวิตของน้องดาวและพี่น้องที่ร่วมสายเลือดทั้ง 4 คน ที่ต้องสูญเสียพ่อและแม่ผู้เคยเป็นหลักในชีวิต จนภาระทุกอย่างของครอบครัว การเลี้ยงดูน้องๆ ยังเล็กที่ตกไปเป็นหน้าที่พี่สาวคนโตของน้องดาว แต่ด้วยความเป็นจริง อายุของพวกเขายังน้อยนิด การที่จะยืนอยู่บนโลกใบนี้อย่างมั่นคง และปลอดภัย จึงเป็นไปได้ยากยิ่ง จนกระทั่งวันหนึ่ง “โอกาสที่สองของชีวิต” พวกเขาก็มาถึง และเป็นอีกครั้งที่เส้นทางความฝัน วันใหม่แห่งความหวัง ส่องสว่างอีกครั้ง
หนูมีพี่น้องทั้งหมดสี่คนค่ะ มีพี่เดือนเป็นพี่สาวคนโต ส่วนหนูเป็นคนที่สอง และน้องชายอีกสองคน คือน้องเด่นและน้องดัง พวกเราเข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังเล็กๆ แต่หนูก็ยังพอจำความได้อยู่ค่ะ ครั้งแรกที่เข้ามา หนูกลัวมากว่า พวกเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ก็โชคดี ที่หมู่บ้านเด็กโสสะไม่แยกพี่น้องร่วมสายเลือดออกจากกัน ดังนั้นพวกหนูจึงได้เติบโตมาด้วยกัน
![]()
สายสัมพันธ์พี่น้อง (จากซ้ายไปขวา) ดัง, ดาว, เดือน, เด่น
ปัญหาในช่วงแรกๆ ที่เข้ามาอยู่ในหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงรายของหนูเลยก็คือ การศึกษา เมื่อเด็กบนดอยอย่างหนูต้องเข้าเรียนในโรงเรียนสามัญที่มีการพูดอ่านเขียนเป็นภาษาไทย ซึ่งหนูจะถูกเพื่อนล้อเป็นประจำ ว่าพูดไม่ชัด เขียนไม่ได้ ช่วงนั้นทำให้หนูทุกข์ใจมากค่ะ จนไม่อยากไปโรงเรียน
แต่ด้วยสายใยแห่งรักของพี่น้องที่ยังถักทอก่อประสานแม้ในวันที่คนใดคนหนึ่งอ่อนล้า อ้อมกอดและคำปลอบประโลมจึงเป็นกำลังใจสำคัญที่มีให้แก่กันและกัน
อย่างที่บอกค่ะว่า หนูมีพี่น้องอีกสามคน ทุกครั้งที่มีปัญหา เราจะยืนอยู่เคียงข้างกันเสมอ โดยเฉพาะพี่เดือนหลังจากที่เราเสียพ่อและแม่ พี่เดือนจะดูแลเราให้คำปรึกษา แนะนำให้กำลังใจน้องๆ อย่างเรื่องที่หนูถูกล้อเลียน พี่เดือนก็สอนว่า อย่าโกรธเคืองในความเป็นจริงที่เขาพูด แต่ให้เอาคำพูดเหล่านั้นมาเป็นแรงผลักดันให้เราเดินต่อก้าวไปข้างหน้า และพัฒนาในสิ่งที่ด้อยให้ดียิ่งขึ้น
จากคำสอนของพี่เดือน และคำที่เพื่อนล้อเลียน หนูต้องขอบคุณ เพราะมันเป็นทั้งกำลังใจและแรงผลักดัน จนปัจจุบันนี้ หนูสามารถพูดภาษาไทยได้ชัดมาก (หัวเราะ) นอกจากนี้หนูยังสามารถพูดภาษาอังกฤษและภาษาจีนได้ค่ะ
สิ่งสำคัญนอกจากการดูแลเอาใจใส่ การให้เด็กมีที่พักอาศัย เครื่องนุ่งห่ม อาหารการกินแล้ว การศึกษา ก็ถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นหลักประกันที่มั่นคงเพื่อให้พวกเขาสามารถออกไปอยู่ร่วมสังคมนี้ได้อย่างภาคภูมิ และเป็นทรัพยากรคุณภาพ
![]()
ความฝันของน้องดาว
“เดือน ดาว เด่น ดัง สี่คนพี่น้องถือว่า เป็นเด็กดี รักใคร่กลมเกลียวกันมาก และใฝ่เรียนรู้อยู่เสมอค่ะ ดังนั้นผลการเรียนของ
พวกเขาจึงเป็นที่น่าพอใจมาก พวกเขาจะเป็นเด็กกิจกรรมด้วย โดยเฉพาะน้องเดือน และน้องดาว เวลามีกิจกรรมเกี่ยวกับทางหมู่บ้าน หรือกับชุมชนภายนอก พวกเขาจะขันอาสาอย่างขะมักเขม้น และทางทางหมู่บ้านเด็กโสสะเองก็ได้สนับสนุนทางด้านนี้ให้กับเด็กๆ ทุกคนอยู่แล้ว” อีกหนึ่งคำบอกเล่า จากคุณกรองจิตต์ บุญพรประเสริฐ ผู้อำนวยการหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงราย
ก่อนหน้านี้หนูไม่เคยมีความฝันว่า โตขึ้นแล้วอยากเป็นอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งเราสี่คนพี่น้องได้มีโอกาสพูดคุยกัน ก็ต้องบอกว่า พี่เดือนอีกนั่นแหละค่ะที่เป็นคนจุดประกายให้กับพวกเราเริ่มมีความหวังและความฝันในอนาคตของตัวเอง
หนูฝันว่าในอนาคตอยากเป็นหมอ จะได้ช่วยเหลือผู้คนที่เจ็บป่วย เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และอีกแค่ปีกว่าๆ หนูก็จะเรียนจบมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว ช่วงนี้ก็เรียนหนักพอสมควรค่ะ ต้องเตรียมความพร้อมอ่านหนังสือให้มากๆ หนูไม่เคยเลิกฝัน และยังคงเดินไปตามเส้นทางฝันนั้นอยู่ แม้จะยังมองไม่เห็นว่า จุดหมายที่หนูไปถึงนั้น เป็นดั่งฝันหรือไม่ก็ตาม หนูก็จะพยายามให้ถึงที่สุดค่ะ
![]()
ความฝันของหนู และพี่น้องอีกหลายคนในครอบครัวโสสะ คงจะไม่เป็นจริงขึ้นมาได้ถ้าไม่ได้รับความเมตตาจากทุกท่าน ที่ได้สนับสนุนการเลี้ยงดูลูกๆ โสสะมาอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณที่ท่านได้ช่วยต่อเติมความฝันให้พวกหนู และมีความกล้าที่จะเดินไปในวันข้างหน้า หากวันนี้ ตัวท่านเองก็มีความหวังและความฝันเหมือนอย่างกับหนู หนูอยากให้ลุกขึ้นมาเดินไปให้ถึงฝันพร้อมกัน อย่าเพิ่งท้อแท้ หรือสิ้นหวังนะคะ และเมื่อวันหนึ่งที่ฝันหนูเป็นจริงแล้ว หนูสัญญาค่ะว่า จะคืนสิ่งที่ดีให้กับสังคมนี้ และทุกท่าน ให้สมกับที่ท่านได้เมตตาพวกหนูมาค่ะ
![]()
น้องดาว (ซ้าย) กับพี่เดือนบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม
ก้าวย่างที่เดินไปตามเส้นทางแห่งฝันนั้น แม้จะยังไม่แน่ชัด แต่ด้วย “โอกาส” ผสานด้วย “ความหวังและตั้งใจ” ก็เป็นต้นทุนชีวิตสำคัญ ที่จะคอยนำทางให้เราทุกคนได้ก้าวเดินต่อไปอย่างมีจุดหมาย แม้ว่า ปลายทางนั้นยังอยู่อีกไกลแสนไกล
หมายเหตุ: ชื่อของเด็กในบทความนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมเพื่อเป็นไปตามนโยบายด้านสิทธิเด็ก