คุณธีระพัฒน์ ลูกโสสะบางปู

คุณธีระพัฒน์ ลูกโสสะบางปู

เอและบีในวันแห่งความสำเร็จ พร้อมครอบครัวร่วมแสดงความยินดี (ปี 2551)

ธีระพัฒน์ แสงสังข์ หรือ บี จบการศึกษาจากราชภัฏจันทรเกษม สาขาบริหารธุรกิจคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ปัจจุบันอายุ  29  ปีทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ฝึกอบรมฝ่ายบุคคลและธุรการของบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

บีในวัย 7 ขวบ
 

บีเข้ามาอยู่ที่หมู่บ้านเด็กโสสะได้อย่างไร
แม่ชัชวรรณ คุณแม่โสสะที่ให้การเลี้ยงดูผมบอกว่า  ผมกับพี่ชายที่เป็นฝาแฝดเข้ามาอยู่ในการดูแลของคุณแม่ที่หมู่บ้านเด็กโสสะบางปู  สมุทรปราการแห่งนี้  ตั้งแต่ยังแบเบาะ  ผมจึงไม่รู้ภูมิหลังของตัวเองครับ

ช่วยเล่าชีวิตในวัยเด็กที่อยู่ในหมู่บ้านเด็กโสสะ
ตอนเด็กๆ คงหนีไม่พ้นการเล่นสนุกสนานกับพี่น้อง  และเพื่อนๆ ในหมู่บ้านครับ  ปั่นจักรยาน  เล่นซ่อนแอบ ปีนป่ายต้นไม้ คำว่าเหงา ไม่เคยอยู่ในความรู้สึกเลยครับ  และยิ่งผมมีฝาแฝดด้วยแล้ว เวลาไปไหนเราก็ไปด้วยกันเสมอ หน้าตาเราคล้ายกันมากจนหลายคนแยกไม่ออก  เวลาเรียกชื่อก็จะเรียก  เอบี  พร้อมกัน ใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน  แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เหมือนจนทำให้เราทะเลาะกันก็มี  อย่างเรื่องของเล่นที่ผู้บริจาคเอามาให้  เพราะมันไม่เหมือนกันนี่แหละ  หลายครั้งเราจะแย่งกันจนแม่เข้ามาห้าม  บอกให้เราแบ่งกันเล่น  หรือบางทีหวงกันมากๆ ก็จะถูกแม่ลงโทษ  แต่เรื่องวัยเด็กที่ไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่ของผมกับพี่เอก็ตรงที่เราเป็นภูมิแพ้  เวลาที่แม่จะซักเสื้อผ้าทีต้องต้มน้ำร้อนแช่เพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน  ไม่อย่างนั้นเนื้อตัวของเราจะมีแต่ผดผื่น  อาการก็ทั้งคันทั้งแสบ  แม่ก็จะหายาคารามายล์ทาให้จนตัวขาวโพลนเลยครับ

รู้สึกอย่างไรกับการเป็นลูกโสสะ
ผมมาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้เลย  ผมจึงไม่ได้รู้สึกถึงการพลัดพราก  การจากลากับครอบครัวเดิมที่ผมไม่รู้จัก  นั่นอาจจะเป็นความโชคดีของผมและพี่ชาย  แต่พี่น้องเราบางคนเขายังจดจำเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวเดิมและสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเขาได้   ซึ่งนั่นอาจเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์วันวานที่เจ็บปวดของพวกเขา  แต่อย่างไรก็ตามเราทุกคนไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีตที่เกิดขึ้นแล้วได้ ทว่า ลองมองให้ดี ชีวิตก็เหมือนเหรียญที่มี 2 ด้าน ถัดจากความพลัดพรากแล้ว ความโชคร้ายที่เกิดขึ้นกลับเปิดโอกาสให้เราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต จนได้เข้ามาอยู่ในครอบครัวโสสะที่อบอุ่น มีคุณแม่โสสะคอยเลี้ยงดู ให้ความรัก  มีพี่น้องที่คอยห่วงหาอาทร  มีเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อีกทั้งยังได้รับการศึกษาเหมือนเด็กที่มีครอบครัวทั่วๆ ไป ผมดีใจมากครับที่ได้เกิดเป็นลูกโสสะ  ที่นี่หล่อหลอมให้ผมเป็นคนเต็มคน  

ผ่านการอบรมของบริษัท

อยากจะบอกอะไรกับทุกคนที่บ้านโสสะ
คนแรกที่ผมนึกถึงคือคุณแม่ชัชวรรณ ที่ต้องเหน็ดเหนื่อยให้การเลี้ยงดู  คอยอบรมสั่งสอน  จนพวกเราเติบโต  และเลี้ยงดูตัวเองได้ พระคุณของแม่ยากนักที่จะพรรณนา  ขอบคุณพี่น้อง คุณน้า คุณอาทุกคนในครอบครัวโสสะที่แบ่งปันสุขทุกข์ร่วมกัน  อีกทั้งที่จะลืมไม่ได้เลย คือท่านผู้มีจิตเมตตาที่เป็นบุคคลสำคัญยิ่ง  ด้วยน้ำใจของท่านที่ได้มอบโอกาสอันมีค่าให้กับ “เด็กกำพร้า”  อย่างพวกเราให้ได้มีอนาคตที่สดใส  ผมซาบซึ้งใจและสำนึกในพระคุณนี้มิเสื่อมคลาย  ผมคงไม่สามารถหาสิ่งใดตอบแทนท่านได้ นอกจากการตั้งมั่นในความดี  และคืนโอกาสเหล่านี้ให้กับสังคม ผมขอให้ท่านผู้มีจิตเมตตาจงมีแต่ความสุข  สมหวัง ดั่งที่ท่านได้มอบแก่ลูกโสสะทุกคนครับ


ชีวิตคนก็เหมือนเหรียญ 2 ด้าน มีทั้งทุกข์และสุข เปลี่ยนแปลงไปมาอยู่เสมอ “ความโชคร้าย” ที่เกิดขึ้นนั้น ในบางครั้งกลับเป็นจังหวะสถานการณ์พลิกผันที่เปิดโอกาสให้เราได้เปลี่ยนแปลงชีวิต เพื่อก้าวไปสู่วันข้างหน้าอย่างมั่นคง

ทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นแม้กระทั่งชะตาชีวิตของผู้คน  ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะอยู่ได้อย่างมีความสุขในปัจจุบัน นั่นก็คือ การน้อมรับกับความเปลี่ยนแปลงด้วยความยินดี ดังเช่นหนทางของลูกโสสะ ที่แม้จะเริ่มต้นด้วยโชคร้าย แต่กลับกลายเป็นโอกาสอันดี ด้วยหัวใจอันเมตตาปราณีจากผู้ให้การสนับสนุน จนถึงวันนี้ที่พวกเขาสามารถก้าวเดินต่อไปบนเส้นทางชีวิตที่มั่นคง เป็นหนึ่งในประชากรคุณภาพ ผู้ส่งเสริมและอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข