SOS-co-workers-wiruyapon-วิรุยาพร อุตระ

วิรุยาพร อุตระ โลกของการทำงานเพื่อเด็ก

วิรุยาพร อุตระ เดิมทีเป็นครูสอนอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่ด้วยความอยากกลับมาอยู่ร่วมกับครอบครัว จึงพยายามหางานในจังหวัดบ้านเกิด และด้วยช่วงนั้น ญาติๆ บอกเล่าว่า มีสถานที่หนึ่งกำลังเปิดรับสมัครครูอนุบาล จึงลองมาสมัครดู
 

จุดเริ่มต้น โลกของการทำงานเพื่อเด็ก

ในปี 2549 เป็นปีเริ่มต้นของการทำงานครูอนุบาลในศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงราย ทำหน้าที่ครูสอนเด็กๆ อยู่เกือบสองปี หลังจากนั้นก็ได้เปลี่ยนหน้าที่ความรับผิดชอบ มาเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการหมู่บ้านเด็กโสสะเชียงรายแทน

การทำงานในหน้าที่ “ครู” และ “ผู้ช่วยผู้อำนวยการหมู่บ้านเด็กโสสะ” มีความแตกต่างกัน โดยหน้าที่ครู จะเน้นวางแผนการเรียนการสอนสำหรับเด็กๆ ให้มีวิชาความรู้ ก่อนที่พวกเขาจะเลื่อนชั้นขึ้นไปเรียนในระดับประถมศึกษาต่อไป ส่วนการทำงานเป็นผู้ช่วยผู้อำนวยการหมู่บ้านเด็กนั้น จะมีรายละเอียดของงานที่ซับซ้อนมากยิ่งขึ้น เพราะเราจะต้องดูแลภาพรวมทุกภาคส่วนของชีวิตเด็ก ตั้งแต่ปัจจัยสี่ การกิน อยู่ นอนหลับ เสื้อผ้า การศึกษา กิจกรรมต่างๆ และที่สำคัญ คือการดูแลและเข้าใจถึงสภาวะจิตใจของเด็กๆ จริงอยู่ว่า เราอาจจะไม่ได้ลงไปคลุกคลี ดูแลเด็กๆ โดยตรงเท่ากับคุณแม่โสสะที่ให้การดูแลพวกเขา แต่ก็เป็นฝ่ายคอยสนับสนุน คอยเป็นที่ปรึกษา ให้กับแม่ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ หรือแม้บางครั้ง ก็รวมถึงตัวเด็กๆ เองด้วย
 

SOS-co-workers-wiruyapon-วิรุยาพร อุตระ โลกของการทำงานเพื่อเด็ก


ในการทำงานกับผู้คน เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมีปัญหาความคิดเห็นไม่ตรงกัน เราคิดว่า การทำงานย่อมมีอุปสรรคบ้าง จะอยู่ที่ไหนก็มี เราแต่ละคนต่างที่มา ต่างความคิด สิ่งแรกคือเราต้องปรับทัศนคติของตัวเราเองให้ได้ เปิดใจรับฟัง มีความอดทน ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ ค่อยๆ แก้ปัญหา การได้มาทำงานที่นี่ถือว่าโชคดี ทุกคนมีจุดประสงค์และเป้าหมายเดียวกัน นั่นก็คือ เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ที่เขาขาดที่พึ่งพิง เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกันนี่เอง ในทุกครั้ง เราจึงสามารถฝ่าฟันผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปด้วยกันได้
 

SOS-co-workers-wiruyapon-วิรุยาพร อุตระ โลกของการทำงานเพื่อเด็ก
 

พลังที่เป็นแรงใจ ในการทำงานเพื่อเด็ก

แรงผลักดันที่ทำให้เรายังคงมีกำลังใจในการทำงานต่อไป ก็คือกำลังใจจากครอบครัว และกำลังใจจากตัวเราเองที่เป็นคนสร้างมันขึ้นมา เรามีความสุขจากการทำงานนี้ ที่ได้เฝ้าดูการเติบโตของเด็กๆ และวันหนึ่งเขาก็จะสามารถออกไปยืนอยู่ในสังคมได้อย่างเข้มแข็งและมั่นคง ถึงแม้ว่า เราอาจจะไม่ใช่ครอบครัวจริงๆ แต่ครอบครัวโสสะก็จะเป็นครอบครัวที่ยืนเคียงข้าง และพวกเขาก็จะขึ้นชื่อว่า เป็นลูกหลานของเราตลอดไป

ในความเป็นจริงแล้วการทำงานเพื่อเด็กๆ ใช่จะมีเพียงแค่แม่โสสะ เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯ เท่านั้น แต่ภาคส่วนที่สำคัญในการทำงานร่วมกันกับเรานั่นก็คือ “ผู้บริจาคทุกท่าน” ที่คอยแบ่งปันน้ำใจช่วยเหลือและสนับสนุนการทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดมา ขอให้เจตนาดีที่ท่านตั้งใจทำเพื่อสร้างอนาคตให้กับเด็กๆ ได้กลายเป็นความภาคภูมิใจ พลังใจในการทำดีต่อๆ ไปด้วยค่ะ