มูลนิธิเด็กโสสะ-เรื่องราวจากครอบครัวโสสะของฉัน
เมษายน 7 2566

เรื่องราวจากครอบครัวโสสะของฉัน

ครอบครัวของฉันเป็นครอบครัวใหญ่ มีพี่น้องมากถึงเกือบ 700 คน พวกเราอาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่ชื่อว่า หมู่บ้านเด็กโสสะ ที่มีถึง 5 แห่งทั่วประเทศ คือ ที่บางปู สมุทรปราการ, หาดใหญ่ สงขลา, หนองคาย, เชียงราย และภูเก็ต

ตอนเด็กๆ ฉันเติบโตขึ้นมามี แม่ คอยเลี้ยงดู มีพี่น้องในบ้านเป็นเพื่อนเล่น คอยสอนและช่วยเหลือเรื่องต่างๆ ทั้งงานบ้าน การเรียน และการทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวันตั้งแต่หัดใส่ถุงเท้า พับผ้าห่ม ทำอาหาร จนฉันสามารถดูแลพึ่งพาตัวเองได้ทุกเรื่อง พวกเราพี่น้องต่างแบ่งหน้าที่กันเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระจากคุณแม่ที่ต้องเลี้ยงดูพวกเราเกือบ 10 คน ในครอบครัวของเรา พี่น้องบางคนสูญเสียครอบครัวจากอุบัติเหตุ ภัยธรรมชาติ ความเจ็บป่วยของผู้เลี้ยงดู บางคนถูกปล่อยปละละเลย ไร้ที่พึ่งพิง บางคนไม่สามารถอยู่ในครอบครัวดั้งเดิมของตัวเองได้เนื่องด้วยปัจจัยต่างๆ ทำให้เราได้รับการช่วยเหลือและเข้าสู่การเป็นครอบครัวโสสะ

มูลนิธิเด็กโสสะ-ครอบครัวโสสะของฉัน

ตอนเด็ก ฉันไม่เคยเข้าใจคำว่า เด็กกำพร้า หมายถึงอะไร เพราะฉันเองมีทั้งครอบครัวและโอกาสในการเรียนรู้ไม่ต่างจากเพื่อนคนอื่น พอโตมาฉันเริ่มเรียนรู้และเข้าใจความหมายของมันมากขึ้น แต่ฉันไม่เคยอาย หรือรู้สึกเสียใจเลยที่เกิดมาเป็นเด็กกำพร้า เพราะทุกคนในครอบครัวช่วยเติมเต็มความรักให้แก่กัน ไม่มีใครในครอบครัวโสสะที่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวหรือถูกทอดทิ้ง

เสียงจากสมาชิก ครอบครัวของฉัน

มีพี่น้องโสสะ ที่เติบโตขึ้นจนสามารถออกไปประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเอง อาศัยอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุขแล้วร่วม 600 คน เป็นพี่น้องที่แม้จะออกจากการเลี้ยงดูของหมู่บ้านเด็กโสสะไปแล้ว แต่พวกเราจะยังเป็น “ครอบครัวเดียวกัน” เสมอ

 

มูลนิธิเด็กโสสะ-ครอบครัวโสสะของฉัน-หมวยกับคุณแม่และพี่น้องในบ้าน

(หมวยกับคุณแม่และพี่น้องในบ้าน)

 

“แม้เราเป็นเด็กในมูลนิธิฯ แต่ก็ไม่เคยได้ถูกปิดกั้นหรือจำกัดจากการใช้ชีวิตเลย เพราะตั้งแต่เล็กๆ เราได้ออกมาเรียนหนังสือข้างนอกหมู่บ้าน ได้พบปะกับผู้คน หรือแม้กระทั่งมาเรียนในระดับมหาวิทยาลัยก็ได้เรียนรู้เหมือนเด็กทั่วๆ ไปค่ะ”

“หนูไม่เคยอายที่จะบอกใครๆ ว่าหนูเป็นเด็กมูลนิธิฯ ที่นี่คือทุกอย่างสำหรับเรา ที่นี่เราได้มี แม่ แม่ผู้ซึ่งต่อให้เราเดินออกมาจากที่นั่นแล้ว แต่แม่ก็ยังเป็นแม่ของเราอยู่ พี่น้องในบ้าน คุณน้าคุณอาทุกคนในหมู่บ้านก็เช่นกัน ทุกคนคือคนในครอบครัวที่หนูมี”

 เสียงจากหมวย พลอยไพริล ภูมิสุทธาผล


มูลนิธิเด็กโสสะ-ครอบครัวโสสะของฉัน-ไอซ์ในวัยเด็ก เติบใหญ่พร้อมครอบครัว จนจบการศึกษา

(ไอซ์ในวัยเด็ก เติบใหญ่พร้อมครอบครัว จนจบการศึกษา)

 

“จากที่เคยไม่มีใคร เรากลับได้มามีครอบครัวที่อบอุ่นอีกครั้ง มีแม่ที่คอยอบรมสั่งสอน มีคุณน้า คุณอา คอยอุ้มชู แนะนำประคองชีวิตให้เราเดินมาจนตลอดรอดฝั่ง มีพี่น้อง ซึ่งแม้จะไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกัน แต่พวกเราก็ผูกพันกันและรักกันเหนียวแน่นไม่แพ้ใคร และสิ่งที่สำคัญรองลงมาจาก ครอบครัว แล้ว การศึกษา ที่พวกเราได้รับนั้น ถือเป็นมรดกชิ้นสำคัญที่จะติดตัวในวันที่เราออกมาจากครอบครัว เพื่อใช้ดูแลตัวเองไปจนตลอดชีวิต”

 เสียงจากไอซ์ กรันต์ สอนเปีย


มูลนิธิเด็กโสสะ-ครอบครัวโสสะของฉัน-นัท

(นัทกับครอบครัวโสสะ)

 

“หนูขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกๆ ท่าน ที่มีจิตเมตตาให้โอกาสพวกเรา หนูไม่อยากให้มองสิ่งเหล่านั้นว่า เป็นตัวเงินเพียงอย่างเดียว เพราะที่แท้แล้ว โอกาสที่พวกหนูทุกคนได้รับจากท่าน คือ ทั้งชีวิต สำหรับเด็กมากมายที่จะได้เติบโต มีการศึกษาเป็นต้นทุนในชีวิต เพื่อเป็นบุคลากรที่มีคุณภาพของสังคมต่อไป”

 เสียงจากนัท นัทธมน หงษ์ทอง


โอกาสเกิดขึ้นได้ จาก ครอบครัวของเรา

พี่น้องในครอบครัวของฉันทุกคนทราบดีว่า โอกาส ที่ได้รับมา ไม่ได้มาเพราะโชคชะตาเท่านั้น แต่ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เกิดขึ้นได้จาก เงินบริจาค ของผู้มีจิตเมตตาทุกท่าน ที่ให้ความรัก ความเอ็นดู ให้อนาคตแก่พวกเราลูกโสสะทุกคน ทุกท่านเปรียบเสมือน ครอบครัวของเรา ที่คอยดูแล ให้ความรัก มอบความปรารถนาดีโดยไม่เคยหวังสิ่งใด ขอเพียงให้เด็กๆ ได้เติบโตอย่างมีคุณภาพ

เพราะคำว่าครอบครัว ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงพื้นที่ สายเลือด แต่หมายถึงสายสัมพันธ์ที่มีต่อกัน

มูลนิธิเด็กโสสะ-ทุกการเติบโตของเด็กกำพร้า เกิดขึ้นได้จากเงินบริจาคของคุณ

ขอบคุณที่เป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวโสสะของเรา

เพื่อมอบความรักและอนาคตให้กับเด็กทุกคน