กุมภาพันธ์ 25 2568
รวม 4 เคล็ด (ไม่) ลับ ป้องกันเด็กจาก 'โรคอ้วน'
"You Are What You Eat" จะสุขภาพดีได้อยู่ที่อาหารการกิน แม้ฟังแล้วเป็นเรื่องธรรมดา แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ยากในปัจจุบัน เมื่อของอร่อยอยู่รอบตัวเราทั้งในชีวิตจริงหรือโลกออนไลน์ เพียงใช้ปลายนิ้วสัมผัสโดนบนหน้าจอ ก็ได้กินสมใจอยาก โดยเฉพาะอาหารหวาน อาหารทอดหรือขนมขบเคี้ยว หากไม่ออกกำลังกายก็ทำให้กลายเป็นโรคอ้วนได้ หมอจึงมีเคล็ด (ไม่) ลับช่วยป้องกันเด็กจากโรคกันค่ะ
ปัจจัยส่งผลให้เกิดโรคอ้วนในเด็ก
โรคอ้วนในเด็ก เป็นภาวะน้ำหนักตัวหรือสัดส่วนไขมันในร่างกายมากผิดปรกติ ซึ่งเกิดได้ทั้งจากพันธุกรรมและการเลี้ยงดู เครือข่ายโรคไม่ติดต่อไทย (Association of Thai NCD Alliance) ได้เผยให้เห็นถึงสถิติ โรคอ้วนในเด็กว่าอยู่ในช่วงน่าเป็นห่วง หากปล่อยไว้ในอีก 5 ปี เด็กจะเติบโตมาทั้งอ้วนและป่วย
ยิ่งเกิดโรคอ้วน ยิ่งเกิดโรคอื่นตามมา
เมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นวัยรุ่นอ้วน โดย 80 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นอ้วน จะอ้วนจนถึงวัยผู้ใหญ่ บางคนก็อาจเกิดภาวะแทรกช้อนหลายอย่าง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในหลอดเลือดสูง เมื่อผ่านไป 10 ปี ก็มีโอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
สิ่งที่เราสังเกตเห็นก่อนได้
- หากอายุ 5 ขวบ เด็กควรมีสัดส่วนที่พอดี เนื่องจากหลังจากนี้ร่างกายจะสะสมไขมันสูงขึ้งขึ้นเรื่อย ๆ หากมีไขมันเกินที่อายุ 5 ปีจะทำให้อ้วนง่าย
- ถ้าภาวะน้ำหนักเกินสืบมาจนถึงช่วงวัยรุ่น การลดน้ำหนักจะต้องได้รับความร่วมมือจากทั้งครอบครัว รวมทั้งต้องเปลี่ยนอาหารและการใช้ชีวิตให้สมดุล ซึ่งจะเห็นได้ว่าการป้องกันได้ผลดีกว่ามาก
วิธีป้องกันเด็กจากโรคอ้วน
การล่วงรู้ก่อนว่าเด็กของเราเป็นโรคอ้วนจากสาเหตุอะไร และเข้าใจว่า "ความอ้วน" ก็เป็นโรคชนิดหนึ่งที่ต้องดูแลรักษา ก็ทำให้เราสามารถแก้ไขและป้องกันโรคได้อย่างเหมาะสม ด้วยการเข้าพบคุณหมอเพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษา โดยคุณหมอก็ไม่ลืมทิ้งท้ายวิธีป้องกันฉบับเข้าใจง่าย ดังนี้
1. ปรับอาหารการกินใหม่
การรับประทานอาหารที่หลากหลายและครบถ้วนตามหลักโภชนาการ 5 หมู่ ได้แก่ โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินและเกลือแร่ ซึ่งมีส่วนช่วยให้เด็กได้รับสารอาหารที่จำเป็นในแต่ละวัน
- การเน้นอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการต้ม นึ่ง หรืออบ ซึ่งมีไขมันต่ำกว่าการทอด
- ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานน้ำตาลในปริมาณมาก เช่น น้ำอัดลม ชาไข่มุก โดนัท ช็อกโกแล็ต ขนมขบเคี้ยว เพราะมีน้ำตาลสูง สารอาหารน้อยและพลังงานมากเกินไป
- กรณีที่เป็นนม ควรดื่มนมจืดที่มีไขมันต่ำหรือนมถั่วเหลืองจืดแทน
- ทดแทนด้วยผักและผลไม้ที่มีรสหวานน้อย เช่น มันแกว แก้วมังกร แอปเปิลเขียว ฝรั่ง
- เน้นทานคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ถั่วเขียว เผือก แครอท
2. พาเด็กทำกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย
การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งในการเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงและป้องกันโรคอ้วนได้ดี เด็กควรมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมซึ่งสอดคล้องกับวัย เช่น การปั่นจักรยาน การทำกายบริหาร หรือเกมกีฬาที่ทำกับครอบครัวอย่างน้อย 30 นาที เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว บางครั้งกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงานบ้าน ก็สามารถเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายได้เช่นกัน
3. สร้างเสริมกำลังใจ
การเสริมสร้างกำลังใจให้กับเด็กเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการที่เด็กมีความสุขและรู้สึกว่าตนเองสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้ จะช่วยให้เด็กมีพลังใจในการดูแลสุขภาพตัวเอง โดยไม่รู้สึกเครียดหรือบังคับเกินไป การให้กำลังใจที่เหมาะสมและสนับสนุนให้เด็กมีกิจกรรมที่ดี จะทำให้เด็กยินดีและภาคภูมิใจในตัวเอง
4. ทำตามคำแนะนำของหมออย่างสม่ำเสมอ
การรับคำแนะนำจากแพทย์และผู้ชำนาญด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย จะช่วยป้องกันโรคอ้วนในเด็กได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คำแนะนำจากผู้ชำนาญเฉพาะด้านมีส่วนให้ครอบครัวสามารถจัดการเรื่องอาหารและการดูแลสุขภาพของเด็กได้อย่างเหมาะสม ซึ่งผู้ปกครองควรปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เด็กสามารถเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและหลีกเลี่ยงโรคอ้วนได้
![มูลนิธิเด็กโสสะฯ-สุขภาพที่แข็งแรง เริ่มต้นจากโภชนาการที่ดี]()
สุขภาพที่แข็งแรง เริ่มต้นจากโภชนาการที่ดี
มูลนิธิเด็กโสสะฯ ให้การดูแลเด็กที่กำพร้าและขาดโอกาสในครอบครัวทดแทน โดยทุกวันแม่และเด็กๆ จะทำอาหารรับประทานร่วมกันในบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าเด็กๆ จะได้รับโภชนาการที่ดีและเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตตามวัย เพราะเด็กทุกคนควรได้รับการดูแลด้านสุขภาพเป็นสำคัญค่ะ
แหล่งอ้างอิงข้อมูล