มูลนิธิเด็กโสสะ-แตกต่างอย่างเข้าใจเมื่อลูกเป็น LGBTQ  banner
ตุลาคม 7 2565

แตกต่างอย่างเข้าใจ เมื่อลูกเป็น LGBTQ

ทราบไหมคะ? ไม่เพียงแค่ในมนุษย์ แต่ยังพบ “ความหลากหลายทางเพศ” ได้ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิด แสดงให้เห็นว่าเรื่องเพศนั้นมีความหลากหลายโดยธรรมชาติที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ในอดีต ความหลากหลายทางเพศหรือบุคคลที่มีจิตใจไม่ตรงกับเพศสภาพ ถูกมองว่าเป็นเรื่องแปลก ถูกเรียกด้วยคำเหมารวมอย่าง ตุ๊ด เกย์ กะเทย ทอม ดี้ และยังไม่ได้รับการยอมรับในสังคมอย่างกว้างขวาง

บางคนต้องปกปิดตัวตนเพราะกลัวการถูกบูลลี่ (Bully) หรือคิดว่าสิ่งที่ตนเป็นคือ “ความผิดปกติ” โดยเฉพาะในเด็ก ๆ ที่ถูกล้อเลียนเพียงเพราะมีจิตใจไม่ตรงกับเพศสภาพ บางครอบครัวอาจถึงขั้นพาลูกไปพบแพทย์เพื่อ “รักษา” ซึ่งสร้างแรงกดดัน กลายเป็นปมด้อยเมื่อเติบโต และอาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้

ทำความเข้าใจ LGBTQ คืออะไร?

โลกไม่ได้จำกัดแค่เพศชายและหญิงเท่านั้น LGBTQ คือกลุ่มคำที่ใช้เรียกตัวแทนของ “ความหลากหลายทางเพศ” ซึ่งเริ่มใช้โดยกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงกลางยุค 80 เดิมเริ่มจาก LGBT และมีการเพิ่มเติมตัวอักษรอื่น ๆ จนกลายเป็น LGBTQ+, LGBTQIA+ ในปัจจุบัน

มูลนิธิเด็กโสสะ-LGBTQ+ หมายถึงอะไร-infographic

ความหมายของอักษรย่อ LGBTQ+

  • L (Lesbian): ผู้หญิงที่มีรสนิยมชอบผู้หญิง

  • G (Gay): ผู้ชายที่มีรสนิยมชอบผู้ชาย หรืออาจกล่าวรวมว่าคือคนที่ชอบเพศเดียวกัน (homosexual)

  • B (Bisexual): คนที่มีรสนิยมสามารถชอบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

  • T (Transgender): บุคคลข้ามเพศ การเปลี่ยนแปลงเพศสภาพของตนไปเป็นเพศตรงข้าม อาจเป็นผู้หญิงที่ข้ามเพศมาจากผู้ชาย หรือผู้ชายที่ข้ามเพศมาจากผู้หญิง

  • Q (Queer/Questioning): คนที่ไม่ได้จำกัดกรอบว่าจะต้องมีรสนิยมชอบเพศไหน หรือกำลังตามหาตัวตน

  • +: รวมถึงกลุ่มอื่น ๆ เช่น

    • I (Intersex): กลุ่มคนที่มีสองเพศ (ในทางการแพทย์) ทั้งโครโมโซม และอวัยวะเพศ

    • A (Asexual): กลุ่มคนที่ไม่รู้สึกดึงดูดทางเพศกับผู้อื่น

ธงสีรุ้ง สัญลักษณ์ของความหลากหลายและเท่าเทียม

ธงสีรุ้ง (Rainbow Flag) คือสัญลักษณ์ของกลุ่ม LGBTQ ซึ่งถูกออกแบบขึ้นในปี 1977 โดย Gilbert Baker ศิลปินชาวอเมริกัน ได้แรงบันดาลใจจากเพลง Over the Rainbow จากเรื่อง The Wizard of Oz

ต้นฉบับประกอบด้วย 8 สี:

SOSThailand-Supporting-your-LGBTQ-child-Gay

  • สีชมพู Hot pink สื่อความหมายถึงเรื่องเพศ (Sex)
  • สีแดง หมายถึงชีวิต (life)
  • สีส้ม หมายถึงการเยียวยา (healing)
  • สีเหลือง หมายถึงแสงแดด (sunlight)
  • สีเขียว หมายถึงธรรมชาติ (nature)
  • สีฟ้า Turquoise หมายถึงศิลปะ ความผสานกลมกลืน (art)
  • สีคราม หมายถึงความสามัคคี (harmony)
  • สีม่วง หมายถึงจิตวิญญาณอันแน่วแน่ (Spirit)

ปัจจุบันนิยมใช้ 6 สี: แดง / ส้ม / เหลือง / เขียว / น้ำเงิน / ม่วง

SOSThailand-Supporting-your-LGBTQ-child-Gay_flag_current

ลูกเป็น LGBTQ ผิดปกติไหม?

“รสนิยมทางเพศ” เป็นธรรมชาติ ไม่ใช่โรค ไม่ใช่ความผิดปกติ ไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “รักษา” ในทางการแพทย์ ได้ถอดรสนิยมทางเพศออกจากบัญชีความผิดปกติแล้ว

สิ่งที่พ่อแม่ควรทำไม่ใช่พาลูกไปหาหมอ แต่คือ ยอมรับ เข้าใจ และอยู่เคียงข้างเขา เพราะเพศไม่ใช่ตัวตัดสินคุณค่าความเป็นคน แต่ความรัก ความเข้าใจ และการสนับสนุนจากครอบครัต่างหากคือรากฐานสำคัญของชีวิต

สิทธิเด็ก กับ LGBTQ

สิทธิเด็ก” คือสิทธิพื้นฐานที่เด็กทุกคนพึงได้รับ โดยไม่แบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือรสนิยมทางเพศ

แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะเปิดกว้างต่อความหลากหลายทางเพศมากขึ้น แต่ก็ยังมีบางส่วนของสังคมที่ยังไม่เข้าใจหรือไม่ยอมรับ ดังนั้น ครอบครัว จึงเป็นพื้นที่แรกที่เด็กควรได้รับความรักและการยอมรับ เพื่อให้เขามั่นใจในตัวเอง และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข

มูลนิธิเด็กโสสะ-แตกต่างอย่างเข้าใจ-LGBTQ-ผิดปกติไหม-พ่อแม่ควรทำอย่างไร-infographic

ปรับความคิดอย่างไรเมื่อลูกเป็น LGBTQ

1. ศึกษา ทำความเข้าใจ

การที่ลูกเป็น LGBTQ ไม่ใช่สิ่งผิดหรือแปลก แต่คือความหลากหลายทางเพศที่มีอยู่ตามธรรมชาติ หากคุณพ่อคุณแม่ไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ลูกเป็นคืออะไร การเริ่มต้นด้วยการ หาความรู้ จึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความที่เชื่อถือได้ พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเด็ก หรือเข้าร่วมกลุ่มสนับสนุน ก็สามารถช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้นได้

ในทางการแพทย์ LGBTQ ไม่ใช่โรค ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรักษา
แต่คือการเข้าใจและยอมรับ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง และรู้วิธี
ปกป้องตนเองจากการโดนละเมิดหรือกลั่นแกล้ง

  • สำหรับเด็กเล็ก: ความเข้าใจของครอบครัวคือรากฐานสำคัญ ที่จะทำให้ลูกกล้าพูด กล้าแชร์เรื่องของตัวเองกับพ่อแม่
  • สำหรับเด็กโต: เปิดโอกาสให้ลูกอธิบายสิ่งที่เขารู้สึกและต้องการ ช่วยสร้างความเข้าใจในเชิงลึกมากยิ่งขึ้น

2. พูดคุยกับลูกอย่างเปิดใจ

การพูดคุยในชีวิตประจำวันมีผลมากกว่าที่คิดค่ะ การที่พ่อแม่พูดคุยกับลูกเรื่องเพศและเรื่องทั่วๆ ไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ตัดสิน ทำให้ลูกกล้าจะเปิดเผยตัวตนได้มากขึ้น เช่น การไม่แสดงความรังเกียจต่อข่าว LGBTQ หรือไม่ใช้ถ้อยคำล้อเลียนในบ้าน จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ลูก "รู้สึกปลอดภัยที่จะพูด"

หากลูกกล้าเล่า ก็เพราะเชื่อว่าพ่อแม่จะรับฟัง ไม่ตัดสิน

ยิ่งเมื่อลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่บ่งบอกว่าอาจเป็น LGBTQ ตั้งแต่ยังเด็ก พ่อแม่ควรใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะเด็กกลุ่มนี้มีความเสี่ยงที่จะถูกบูลลี่หรือถูกละเมิดมากกว่าเด็กทั่วไป

3. ยอมรับในสิ่งที่ลูกเป็น

ลูกไม่ใช่ "สิ่งที่พ่อแม่อยากให้เป็น" แต่คือ "คนคนหนึ่ง" ที่ต้องการการยอมรับในแบบที่เขาเป็น ครอบครัวจึงควรเป็น Safe Zone ให้ลูกได้รู้สึกปลอดภัย ไม่แปลกแยก ไม่เปรียบเทียบลูก และกล้าจะเป็นตัวของตัวเอง

งานวิจัยพบว่า เด็กที่พ่อแม่ยอมรับ มีถึง 90% ที่เติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุข
ขณะที่เด็กที่ถูกปฏิเสธจากครอบครัว มีเพียง 10% เท่านั้นที่รู้สึกว่าตัวเองจะมีอนาคตที่ดี

อย่าลืมส่งเสริมให้ลูกเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะสิ่งนี้จะเป็นเกราะป้องกันใจที่ดีที่สุดในการเผชิญกับโลกใบนี้

4. อยู่เคียงข้างเพื่อสนับสนุน

การสนับสนุนของครอบครัว ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่อยู่ที่ "การอยู่ตรงนั้น" ให้ลูกรู้ว่า ไม่ว่าจะเจออะไร คุณพ่อคุณแม่ก็อยู่ด้วยเสมอ

สนับสนุนในสิ่งที่เขาอยากเรียน อยากทำ อยากเป็น โดยใช้ความรักและเหตุผล ไม่ใช่ความคาดหวังและอคติ

พูดชื่นชมเมื่อลูกทำดี ตักเตือนเมื่อลูกทำผิด ด้วยหลักการเดียวกับลูกทุกคน ไม่ใช้เพศสภาพเป็นข้อตำหนิ หรือเอามาเป็นเรื่องล้อเล่นในครอบครัว

มูลนิธิเด็กโสสะ-Blog-Supporting-your-LGBTQ-child-พี่น้อง-ครอบครัว

รักในสิ่งที่ลูกเป็น ยอมรับในทุกความแตกต่าง

มูลนิธิเด็กโสสะฯ เชื่อว่าเด็กทุกคน ไม่ว่าจะมีเพศสภาพแบบใด หรือมีที่มาอย่างไร ต่างสมควรได้รับการดูแล เลี้ยงดู และเติบโตภายใต้ความรัก ความปลอดภัย และการยอมรับในตัวตนของตนเอง

เราให้ความสำคัญกับ สิทธิเด็ก และสนับสนุนให้เด็กๆ ได้รับ "โอกาสที่สอง" จากผู้บริจาคทุกคน เพื่อเรียนรู้ เติบโต และเลือกเส้นทางของตัวเองได้อย่างภาคภูมิใจ

เพราะ "ครอบครัว" คือรากฐานสำคัญของการสร้างอนาคตที่มั่นคง
และ "ความเข้าใจ" คือจุดเริ่มต้นของความรักที่แท้จริง

ร่วมมอบโอกาสเพื่อสนับสนุนความเท่าเทียมให้กับเด็กกำพร้า


อ้างอิง
iStrong Mental Health
Petcharavej Hospital
Princ Hospital Suvarnabhumi
กรุงเทพธุรกิจ

Copyright © All Right Reserved