3 วิธี เปลี่ยนยักษ์เป็นรัก จัดการความโกรธก่อนวีนลูก

sosthailand-3-ways-to-handle-your-anger-with-kids-3-วิธี-เปลี่ยนยักษ์เป็นรัก-จัดการความโกรธ-ก่อนวีนลูก

 

เพราะเราทุกคนเป็นมนุษย์ มีจิตใจ ไม่ว่าใครต่างก็มีอารมณ์โกรธด้วยกันได้ทั้งสิ้น เพียงแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะสามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ดีกว่ากัน ยิ่งมนุษย์แม่ เมื่อต้องเจอกับบททดสอบของลูกน้อยตัวแสบ ที่ทั้งดื้อ ทั้งซน ร้องโวยวาย และเอาแต่ใจ ด้วยความเหนื่อยล้าและความเซ้าซี้ของลูกน้อยก็อาจเกิดความโมโหขึ้นได้บ่อยๆ จนแทบจะกลายร่างเป็นยักษ์

แต่ทราบไหมคะว่าผลร้ายของการกลายเป็นยักษ์ที่น่ากลัว ไม่ว่าจะเป็นการตวาด ดุด่าเสียงดัง พูดด้วยถ้อยคำว่าร้าย การตีหรือทำร้ายร่างกายเพียงเพื่ออยากให้ลูกหยุดพฤติกรรมที่เราไม่ต้องการ แม้จะไม่ถึงกับรุนแรงมาก แต่สิ่งเหล่านั้นคือการกระทำที่เรากำลัง ละเมิดสิทธิเด็ก โดยไม่ทันได้รู้ตัว ซึ่งอาจกลายเป็นบาดแผลในใจ ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในระยะยาวได้
 

หยุดอารมณ์โกรธก่อนกลายร่างเป็นยักษ์ ทำให้ลูกน้อยกลัว

ก่อนจะมานั่งเสียใจภายหลังเมื่อพายุความโกรธได้พัดผ่านไปแล้ว เพราะความรู้สึกที่สูญเสียไปแล้วนั้นยากที่จะเรียกคืนกลับมาได้ 100 % คุณพ่อคุณแม่จึงควรตั้งสติและ “หยุด” กลายร่างเป็นยักษ์ ให้ยังเป็นมนุษย์แม่ หรือมนุษย์พ่อที่เข้าใจธรรมชาติของลูก พูดคุยกันด้วยเหตุผลอย่างใจเย็น ด้วย 3 วิธี เปลี่ยนยักษ์เป็นรัก จัดการความโกรธก่อนวีนลูก กันค่ะ

 

sosthailand-3-ways-to-handle-your-anger-with-kids-3-วิธี-เปลี่ยนยักษ์เป็นรัก-จัดการความโกรธ-ก่อนวีนลูก-info-onepage


1. รู้ทันอารมณ์ตัวเอง ยอมรับและควบคุมความโกรธ

เมื่อใดที่ลูกเริ่มทำให้โกรธ ให้ตั้งสติ ยอมรับกับตัวเองก่อนว่าเรากำลังมีอารมณ์โกรธ และบอกกับลูกไปตรงๆ ด้วยน้ำเสียงสงบ ให้เขาได้รับรู้ว่าเรากำลังรู้สึกอย่างไร เพราะอะไร
 

2. พาตัวเองออกจากสถานการณ์นั้น

บอกกับลูกให้เขาเข้าใจว่าเราจะขอไปจัดการอารมณ์ตัวเองก่อน และจะกลับมาคุยกันใหม่อีกครั้ง จากนั้นให้เราใช้เวลาอยู่กับตัวเอง หายใจเข้าออกลึกๆ ผ่อนคลาย เมื่อใจเย็นลงแล้วจึงค่อยกลับมาปรับความเข้าใจ และสอนลูกด้วยเหตุผลอีกครั้ง วิธีนี้จะช่วยให้เรามีสติยั้งคิดมากขึ้น ไม่พลั้งเผลอทำร้ายลูกด้วยอารมณ์ชั่ววูบค่ะ
 

3. ทบทวนปัญหาที่เกิดขึ้น

ลองสังเกตถึงปัญหาที่จะทำให้เราโกรธอยู่บ่อยๆ แล้วมานั่งทบทวนเพื่อหาวิธีการป้องกัน หรือแก้ปัญหานั้น  เช่น

  • ลูกมักงอแงไม่ยอมเข้านอน คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องให้เวลาทำกิจกรรมกับเขา หรือกล่อมด้วยหนังสือนิทานก่อนเข้านอนเพื่อให้หลับ แทนที่จะบอกให้เขาเข้านอนด้วยตัวเองเมื่อถึงเวลาเท่านั้น
  • ลูกมักชอบนำเครื่องสำอางออกมาเล่นเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ทั้งที่ถูกดุอยู่บ่อยครั้ง คุณพ่อคุณแม่อาจจะแก้ปัญหาด้วยการทำกิจกรรมระบายสีบนกระดาษกับลูกๆ และสอนให้เขารู้จักการเล่นอย่างเป็นที่เป็นทาง รวมถึงเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้ในที่มิดชิด ที่ลูกเอื้อมไม่ถึงหรือไม่สามารถหยิบได้ เป็นต้น
     

พ่อแม่ คือต้นแบบของลูก

เป็นเรื่องปกติที่คุณพ่อคุณแม่จะสามารถโกรธ หรือดุลูกๆ ได้ เพื่อให้เขาอยู่ในระเบียบวินัยที่ดี แต่การดุด้วยเหตุผล กับการดุเพราะอารมณ์โกรธนั้นแตกต่างกันค่ะ การเลี้ยงลูกด้วยอารมณ์ด้านบวกมักจะสร้างทัศนคติที่ดีให้กับเด็กๆ ส่งผลให้มีพัฒนาการด้านอารมณ์ที่ดี กลับกัน หากพ่อแม่ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ตนเองได้ เด็กก็จะจดจำและซึมซับพฤติกรรมนั้นมา อาจส่งผลให้กลายเป็นเด็กที่มีอารมณ์รุนแรงและก้าวร้าวได้ค่ะ
 

sosthailand-3-ways-to-handle-your-anger-with-kids-3-วิธี-เปลี่ยนยักษ์เป็นรัก-จัดการความโกรธ-ก่อนวีนลูกครอบครัวโสสะ-ลูกโสสะ-family

 

แม่โสสะ กับการจัดการอารมณ์ในการเลี้ยงดูลูก

มูลนิธิเด็กโสสะฯ ให้การช่วยเหลือ เด็กกำพร้า ที่สูญเสียพ่อแม่ ไร้ญาติมิตร และเด็กที่เสี่ยงต่อการถูกทอดทิ้ง เพื่อให้เติบโตด้วยความรักจาก ครอบครัวทดแทน อีกครั้ง เด็กทุกคนจะได้รับการเลี้ยงดูโดยคุณแม่โสสะ ร่วมกับพี่น้องภายในบ้าน เกิดเป็นสายสัมพันธ์ต่อกันอย่างแน่นแฟ้น ทั้ง คุณแม่เกษียณ และเด็กๆ ที่เติบโตออกจากการดูแลของครอบครัวโสสะไปแล้ว ต่างก็ยังคอยให้การช่วยเหลือดูแลกันเสมอ

เคยคิดไหมคะว่า การเลี้ยงดูเด็กๆ จากต่างสายเลือด ต่างที่มา และต่างวัยกันกว่า 10 คน ภายในบ้านหลังเดียวกัน คุณแม่โสสะจะต้องใช้ความอดทนและความทุ่มเทขนาดไหน ความวุ่นวายในแต่ละวันทำให้คุณแม่ต้องใช้ทั้งหัว+ใจ ในการดูแล และคอยบริหารจัดการอารมณ์ของตนเอง เพื่อการเลี้ยงดูลูกทุกคนให้เติบโตอย่างแข็งแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจค่ะ ดังนั้นคุณแม่ทุกท่านจึงต้องผ่านการอบรมทั้งด้านการเลี้ยงดูเด็กอย่างถูกต้อง รวมถึงจิตวิทยาเด็ก เพื่อให้เข้าใจและยอมรับ สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กแต่ละคนซึ่งมีความแตกต่างกันได้ค่ะ


ที่มา
เลี้ยงลูกตามใจหมอ
6 ขั้นตอนควบคุมอารมณ์เมื่อโมโหลูก

Copyright © All Right Reserved